27/5/53

ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง

ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง

เมื่อรู้สึกปวดหลัง วิธีบำบัดเบื้องต้นที่ไม่ควรมองข้าม คือ การบริหารกล้ามเนื้อ เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง

ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง

ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวของคุณเอง ก่อนที่จะหันไปรับประทานยาแก้ปวด หรือพบแพทย์เพื่อรักษา

เริ่มจาก

- การนอนหงาย งอเข่าขึ้นตั้งฉาก แขนทั้งสองข้างวางแนบกับพื้น หายใจเข้าและออกลึก ๆ 5-10 ครั้ง

- จากนั้นดึงเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาชิดหน้าอก ค้างไว้ 5 วินาที ทำสลับกับขาอีกข้าง จนครบ 10 ครั้ง แล้วดึงเข่าทั้งสองข้างให้ชิดหน้าอกพร้อมกัน ค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง

- ต่อด้วยการเอียงเข่าท้องสองข้างไปทางด้านซ้ายเพื่อบิดสะโพก ค้างไว้ 5 วินาที สลับกับข้างขวา ทำจนครบ 10 ครั้ง

ยังอยู่ในท่านอนหงาย โดยยกขาขึ้นข้างหนึ่งแล้วเกร็งขายกค้างไว้ 5 วินาที เอาขาลงแล้วยกขาอีกข้างทำสลับกันไป 10 ครั้ง แล้วกลับสู่ท่านอนหงาย ชันเข่าขึ้นตั้งฉาก แอ่นหลังแล้วเกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 5 วินาที (ซึ่งช่วงก้นยังต้องติดพื้น) ผ่อนลงช้า ๆ จนหลังแนบพื้นนาน 5 วินาที จึงแอ่นหลังขึ้นมาใหม่ทำซ้ำเช่นเดิม 10 ครั้ง

ส่วนการยืดกล้ามเนื้อ ช่วงสะโพกและเชิงกราน ก็ให้นอนหงาย งอเข่าตั้งฉาก แล้วยกหลังและสะโพกขึ้นจากพื้นให้มากที่สุด เกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อย ๆ ลดระดับลงจนหลังและสะโพกแนบพื้น ทำซ้ำเช่นเดิม 10 ครั้ง

ต่อ ด้วยการนอนหงาย ชันเข่าตั้งฉาก ยกศีรษะขึ้นพร้อมกับเกร็งหน้าท้อง แล้วใช้มือแตะที่เข่า ค้างไว้ 5 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเดิม ทำจนครบ 10 ครั้ง

ยังมีท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังโดยตรง เริ่มจากคุกเข่าลงกับพื้นแล้วโน้มลำตัวไปด้านหน้า เหยียดมือทั้งสองข้างแตะพื้น จากนั้นจึงแอ่นหลังพร้อมกับเงยหน้าขึ้นค้างนาน 5 วินาที ทำสลับกับการโก่งหลังและก้มคอลงจนครบ 10 ครั้ง

สเต๊ปต่อ มายังอยู่ในท่าคุกเข่าลงกับพื้นแล้วโน้มลำตัวไปด้านหน้า เหยียดมือทั้งสองข้างแตะพื้น แต่ให้เหยียดยืดขาข้างหนึ่งไปด้านหลัง เกร็งค้าง 5 วินาที ทำสลับกับอีกข้างจนครบ 10 ครั้ง ทั้งนี้สามารถเพิ่มการยืดเหยียดที่แขน ขณะยืดขาไปด้านหลังให้ยกแขนข้างตรงกันข้ามขึ้นสูงค้างไว้แล้วยกลงพร้อมกับขา

เปลี่ยนเป็นการนอนคว่ำ ช่วงเขาแนบติดพื้น แล้วแอ่นหลังขึ้นจากพื้นนับ 5 วินาที ผ่อนลงนอนราบท่าเดิม จนครบ 10 ครั้ง จากนั้นยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้นให้มากที่สุดค้าง 5 วินาที สลับกับขาอีกค้างให้ครบ 10 ครั้ง สุดท้ายในท่านอนคว่ำหน้า ให้ยกศีรษะพร้อมช่วงอกขึ้นจากพื้นให้มากที่สุดค้างไว้นาน 5 วินาที 10 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม การบริหารกล้ามเนื้อตามสเต๊ปข้างต้น ไม่ควรทำอย่างรีบร้อนและรุนแรง หากอาการปวดกลับเพิ่มมากขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์.

ที่ มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด

วิธีออกกำลังกายให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดที่แตกต่าง เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและใจ ไม่ทำให้ร้ายกล้ามเนื้อเพราะการออกกำลังกายอย่างหักโหม

ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด



เริ่มจากเลือดกรุ๊ปเอ ควรออกกำลังกายแบบช้า ๆ ออกแรงไม่มาก เช่น โยคะ ไท้เก๊ก ชี่กง เพราะมีโครงกระดูกเล็ก หักง่าย สืบเนื่องจากอาหารที่เหมาะสมของคนเลือดกรุ๊ปเอ คือ อาหารประเภทมังสวิรัติ หรือรับประทานเนื้อสัตว์เพียงเล็กน้อย

ส่วนเลือดกรุ๊ปบี ที่รับประทานอาหารทั้งผักทั้งเนื้อสัตว์ได้ในสัดส่วนที่เท่ากัน จึงมีความว่องไว ให้ออกกำลังกายอย่างสมดุล ไม่หักโหมหรือเชื่องช้าเกินไป เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ กอล์ฟ ปิงปอง

สำหรับผู้ที่มีเลือด กรุ๊ปเอบี เปรียบเสมือนส่วนผสมของกรุ๊ปเอและบี ให้สังเกตตนเองว่ามักเลือกรับประทานอาหารของกรุ๊ปเอ หรือกรุ๊ปบีมากกว่ากัน เมื่อทราบแล้วก็ให้ออกกำลังกายตามลักษณะของเลือดกรุ๊ปนั้น แต่ก็ควรเพิ่มการออกกำลังกายในแบบที่เหมาะกับเลือดอีกกรุ๊ปด้วย เช่น มักรับประทานผักและผลไม้อย่างคนเลือดกรุ๊ปเอ ก็ให้ออกกำลังกายแบบช้า ๆ เป็นหลัก และเสริมด้วยการออกกำลังกายของคนเลือดกรุ๊ปบีบ้าง

ขณะที่ คนเลือดกรุ๊ปโอ เหมาะสมกับการออกกำลังกายชนิดที่ต้องออกแรงมาก เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล วิ่งทางไกล ชกมวย เนื่องจากสภาพร่างกายสามารถบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงและผักได้ในปริมาณ มาก ทำให้มีโครงกระดูกที่แข็งแรง กล้ามเนื้อกระชับแน่น

ไม่ว่าคุณจะ มีเลือดอยู่ในกรุ๊ปใด ต้องไม่ลืมการเดินเร็ว 10 นาที หลังจากออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือดทุกครั้ง นอกจากนี้ยังควรออกมายืดเส้นยืดสายเคลื่อนไหวร่างกายให้ผิวหนังถูกแสงแดดราว 20 - 30 นาที ในช่วงเวลา 11.00 - 14.00 น. เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวมีรังสียูวีในระดับเข้มข้น ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดี 3 เพื่อช่วยลำเลียงแคลเซียมและแร่ธาตุต่าง ๆ ไปยังกระดูก โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นมะเร็งผิวหนัง หากไม่ได้ออกมารับแสงแดดด้วยการนอนอาบแดดอยู่เฉย ๆ กับที่ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนัง.

ที่ มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เรื่องของกลิ่นปาก

กลิ่นปากคือลมหายใจที่ผ่านช่องปากมีกลิ่นเหม็นเป็น ครั้งคราวหรือมีกลิ่นตลอดเวลาก็ได้ คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่ามีกลิ่นปาก อาจทดสอบด้วยตัวเองด้วยการใช้มือบังบริเวณปากและจมูก แล้วหายใจออกทางปาก ตามด้วยหายใจเข้าทางจมูกก็จะได้กลิ่นปาก

article : พญ.สมศรี ประยูรวิวัฒน์ อายุรแพทย์ แปลและเรียบเรียง

เรื่องของกลิ่นปาก


สาเหตุ

  • อนามัย ช่องปากไม่ดี มีเศษอาหารค้างในช่องปากเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากฟันผุ เหงือกอักเสบ การแปรงฟันไม่สะอาด ไม่ได้ใช้ไหมขัดฟันหลังกินอาหาร จึงมีเศษอาหารค้างอยู่ในช่องปาก ซอกฟัน นอกจากนี้ยังเกิดจากคราบแบคทีเรียที่เกาะตามฟัน เหงือก ลิ้น ซอกฟันเก ฟันปลอมและอุปกรณ์ทางทันตกรรม เมื่อเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนมากขึ้น ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ เลือดออกตามไรฟันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของกลิ่นปาก
  • บุหรี่ คราบสารนิโคติน และทาร์ (tar) ในบุหรี่ที่เคลือบตามฟันและติดแน่นอยู่กับเหงือก ช่องปากและปอด ทำให้ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
  • สุขภาพทั่วไป กลิ่นปากอาจเกิดจากโรคต่างๆ เช่น ทอนซิลอักเสบ ปอดอักเสบ แผลในช่องปาก ไซนัสอักเสบ ไข้หวัด โรคของกระเพาะอาหาร ยาบางชนิด
  • อาหาร โดยเฉพาะเครื่องเทศ กระเทียม หอม สุรา ซึ่งจะมีกลิ่นติดปากประมาณ 1-2 วัน นมและเนยก็มีส่วนให้เกิดกลิ่นปากได้
  • ปากแห้งอันมี สาเหตุมาจากน้ำลายน้อย เช่น ผู้มีอาชีพใช้เสียง หรือผู้ป่วยภูมิแพ้ที่นอนอ้าปากหายใจทางปากขณะหลับ การเคี้ยวอาหารช่วยให้น้ำลายออกมากขึ้น
  • อายุ แม้ว่าจะดูแลอนามัยช่องปากเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม อายุที่สูงขึ้นมีส่วนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของต่อมน้ำลาย ผลิตน้ำลายน้อยลง

การ ดูแลตนเอง กลิ่นปากสามารถหายได้ด้วยการรักษาสุขอนามัยช่องปากให้ดี หากยังไม่ดีขึ้นควรพบทันตแพทย์

  • ทางที่ดีที่สุดในการ แก้ไขปัญหากลิ่นปากคือ การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน อีกทั้งพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน
  • หากมี เลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟันหรือหลังใช้ไหมขัดฟันเป็นเวลาเกิน 3 สัปดาห์ อาจเกิดจากเหงือกอักเสบ ควรพบทันตแพทย์
  • ควรแปรงลิ้นให้ถึงโคน ลิ้นด้วยแปรงที่อ่อนนุ่มทุกวัน เพราะลิ้นเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียเช่นกัน พบว่าผู้ที่แปรงลิ้นมีกลิ่นปากน้อยกว่าผู้ที่แปรงฟันโดยไม่แปรงลิ้น
  • ผู้ ที่สูบบุหรี่ควรหยุดสูบบุหรี่ทันที กลิ่นปากจะหมดไปหลังหยุดสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์
  • ดื่มน้ำปริมาณมากเพื่อป้องกันปากแห้ง
  • กิน ผักสดและผลไม้ที่มีกากใยอาหาร เป็นการช่วยทำความสะอาดฟัน
  • หลีก เลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น หอม กระเทียม เครื่องเทศ
  • น้ำยา บ้วนปาก ยาอม และสเปรย์ดับกลิ่นปาก ช่วยบดบังหรือระงับกลิ่นปากได้ชั่วคราว ไม่ควรอมยาอมที่มีรสหวานเพราะเป็นเหตุให้แบคทีเรียเติบโตดี ส่งผลให้ฟันผุและเกิดกลิ่นปากมากขึ้น
  • ทำความสะอาดฟันปลอมทุกคืน ตามคำแนะนำของทันตแพทย์
  • ไม่ควรงดอาหารบางมื้อเพราะการเคี้ยว ช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำลาย

การรักษา

  • ตรวจ สุขภาพช่องปากเพื่อหาสาเหตุ และรักษาตามสาเหตุ
  • ส่งไปพบแพทย์ หากสาเหตุของกลิ่นปากไม่ได้เกิดจากปัญหาในช่องปาก


ที่ มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today

21/5/53

อ้าวๆๆอ้าวๆๆๆ เสียงปืนดังอีกแล้ว

โห่ห่ห่ห่ห่ นึกว่าจะปลอดภัยแล้วนะเนียะ
แต่ยังได้ยินเสียงปืนอีก กรำกรำกรำ

ไม่ได้ยินเสียงปืนแล้ว

เมื่อคืนไม่ได้ยินเสียงปืนแล้วอะ สงกาสัยเงียบสงบแล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

20/5/53

กลับสู่ ราชปรารภ

กลับถึงห้อง ราชปรารภ ประมาณ 9 โมง นิดๆมั้งอะ
เข้ามาให้ห้อง โห่ เหม็นนนนนนนนนนมาก
ก็จะเหม็นอะไรหล่ะ เหม็นข้าวผัดนะสิ ที่กินไม่หมด แล้วเอาใส่หม้อหุงข้าวไว้ ดันลืมเอาทิ้ง

เอาผ้าลงไปซัก และ เติมน้ำ แอบชะเง้อ ดูปากซอย
คุณทหารก็ยังอยู่เหมือนเดิม ตอนนี้มียางรถเพิ่มมา สงกะสัยที่ยึดมาจาก นปช อะนะ

11.30 ออกไปซื้อของที่โกลเดนท์เพลสมาเก็บไว้ ซื้อมาเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกๆ
น่าจะอยู่ได้สัก 1 อาทิตย์ อิอิ
.....คนซื้อของเยอะมาก เกือบเต็มห้างแหน่ะ จิงๆนะไม่ได้โม้

เจอนิคกี้9นิ้ว ด้วยแหล่ะ อิอิ

ข่าวเงียบจัง

ไม่รู้ตอนนี้สถานการณ์เป็นไงบ้าง

ข่าวเงียบมากๆ

กทม รถหายไปไหนหมด

ว่าจะกลับราชปรารภแล้ว
แต่โทรไปที่หอ ไม่มีใครรับเลยยยย เนียะ แงแง
จะได้กลับมั๊ยนี่ เฮ้ออออ...

18/5/53

คืนนี้นอนไม่ได้ยินเสียงปืน และ ระเบิด / อยู่รัชดา17

เหนื่อยๆๆๆ นั่งรถจนเหนื่อย อิอิ
เข้าห้องพักได้ประมาณ 1 ทุ่มๆๆ
จิงๆ ส่วนตัว ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเป็นผู้ติดตาม
ไม่รู้ตอนนี้ราชปรารภ จะเป็นอย่างไรบ้าง

คืนนี้คงนอนหลับ โดยไม่ต้องได้ยินเสียงปืนและระเบิด อะนะ


พรุ่งนี้ที่บริษัทเปิดให้ทำงานด้วย
แต่ดอยไม่สะดวกเลยจ้า

ก่อนออกมาไม่ได้เตรียมอะไรเลย
พอ รู้ว่า ไฟดับ ไม่มีน้ำกิง ก็เลยรีบออกมาเลย -_-"

อพยพออกจากราชปรารภแล้ว

วันนี้ ประมาณเกือบ 11.00 น. โดยประมาณ ออกจากราชปรารภ

ตื่นมา ไฟดับแล้วอะ แบตโทรศัพท์ ก็หมด หมดพร้อมกันสามเครื่องเลย อะไรกันเนียะ
ก่อนแบตหมดโทรหาเบียร์ แจ้งว่า เค้าเผาแบงค์กรุงเทพ ไฟเลยดับ

ลงไปดูด้านล่าง
หน้าปากซอย คุณทหาร ยังปิดปากซอยอยู่ เช่นเดิม
คนก็เริ่มหอบกระเป๋า ทยอย ออกจากหอแล้ว

ตกลงออกจากหอ ลงมาลาดจอดรถ เกือบไม่มีรถแล้ว
ก่ะว่าจะไปพักที่งามวงศ์วาน แต่แวะมาทำธุระ ที่ฟอร์จูนก่อน
แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ฟอร์จูนนะ

เจ้ยยอดเหรียญเล่นเน็ต กินไวสิบเป๋งเลย

วุ่นวายๆๆๆๆ

พระคุ้มครอง คนดี สาธุ.....

ออกมาพร้อมกับ ที่รัก พี่ยุทธ น้องแอ้ว
ณ ตอนนี้ 13.00 ยังอยู่ที่ฟอร์จูน
เขียนที่ฟอร์จูน ชั้น 3

แงแงแงแงแง เสียใจมาก

ส่งเว็บเข้าประกวดไม่ทัน .............-_-.........


ขณะนี้ปิดรับผลงานโครงการประกวดแล้วค่ะ

17/5/53

การทำ favicon.ico ติด address bar ที่เว็บ

คือดอยต้องกา่รที่จะทำภาพเล็กๆ ติดตรง address bar ของ browser อะคะ
ก็เลยไป Search หาวิธีดู

วิธีทำ favicon.ico

1. เปิด Ps ขึ้นมา
2. กำหนดขนาดที่ 16x16 pixels หรือใหญ่กว่านั้นก็ได้แล้วค่อย resize เอา
3. ออกแบบตามใจชอบ
4A. ถ้าไฟล์ขนาดใหญ่กว่า 16x16 pixels ก็ให้ resize ลงมา
4B. save as "favicon.png"
5. เปิดโปรแกรมแปลงไฟล์ขึ้นมา(แนะนำ Format Factory เพราะเป็นฟรีแวร์ และมีประสิทธิภาพสูง)
6 .เลือก "ทั้งหมดไปยัง ico"
7. เลือกไฟล์ที่เราเซฟไว้เมื่อกี๊
8. เริ่มแปลงไฟล์
9. เมื่อแปลงไฟล์เสร็จก็ให้ไปที่โฟลเดอร์ปลายทางของโปรแกรมนั้นๆ
10. ย้ายมันออกมาไว้ที่เดียวกับ homepage

1. เตรียม favicon.ico ให้เรียบร้อย
2. เปิด homepage ของเราขึ้นมา
3. ใต้แท็ก meta ใส่ code นี้ลงไป
link rel="shortcut icon" href="favicon.ico"/


<ก้อบปี้ตัวแดงมาวางตรงนี้เลยค่ะ>

แล้วก้อปปี้ทั้งหมดไป

ดอยพิมพ์เต็มๆแร้ว แต่แสดงไม่ครบอะคะ
4. SAVE

เวลาอัพโหลดให้อัพไว้ใน DIR เดียวกันนะครับ



ขอขอบพระคุณ : http://ipbthailand.in.th/index.php?/topic/7629-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-faviconico-%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%99-homepage-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%97/

เสียงปืนต่อเนื่อง 5 นาทีได้

16.00 โดยประมาณ

สุดยอด เสียงปืนต่อเนื่อง 5 นาทีได้
อัดเสียงไว้ แต่ไม่ชัดอะ -_-"

เค้าเอาจริงๆแล้วใช่ป่ะ่

เหมือนผีบ้าเลย มานั่งเขียนคนเดียว อิอิ

กินปลาเค็มมาสองมื้อแหล่ะ

ณ ตอนนี้เรื่องก็ยังไม่จบ เสียงปืน ก็มาเป็นระยะๆ เรื่อยๆ

ตอนเที่ยงทำกับข้าวอยู่ ก็มีฮอร์บินผ่านหน้าไป เสียงปืนก็ดังๆ เรื่อยๆ

เมื่อไหร่จะสงบสักทีน้อออออ ขอให้จบลงด้วยดี สาธุ.............

กินปลาเค็มมาสองมื้อแหล่ะ
เมื่อวานเย็น กินข้าวต้มเกลือ ก่ะ ปลาเค็ม ไข่เจียว

เที่ยงนี้ นึ่งข้าวเหนียวด้วย กิงก่ะ ไข่ตุ๋น กุนเชียงทอด น้ำพริกกะปิ ปลาเค็มเหลือเมื่อวาน
...โอ้วววว จะไม่มีกิงอยู่แล้ว ทะไม กิงเยอะจัง ก็มีละนิดละหน่อย นิน่า
กุนเชียงก็อันเดียวดันมาทอดไหม้อีกเวงกรำ ปลาเค็มก็ยังเหลือมื้อต่อไปนะเนีย อิอิ

เสธ.แดงลาโลกแล้ว

เพิ่งรู้ข่าวเมื่อกี้นี้เอง ว่า เสธ แดง ตายแล้ว
ก็เลยรีบเข้า manager.co.th ก็ได้ความว่า ตายแล้วจริง

คณะแพทย์ได้ทำการล้างไต ขณะที่ความดันยังไม่คงที่ตลอดทั้งคืน ทำให้ต้องใช้ยากระตุ้นความดัน ไปทั้งสิ้น 700 หลอด ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณสูงมาก จนกระทั่งเช้าวันที่ 17 พ.ค. แพทย์ไม่สามารถวัดความดันผู้ป่วยได้ เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น แพทย์ช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ 55 นาที ร่วมกับการใช้ยากระตุ้นความดัน 17 หลอด จนเมื่อเวลา 09.20 น. พล.ต.ขัตติยะ ได้เสียชีวิตลง

ติดตามรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ : http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000067773

เสียงหนักกว่าเมื่อคืนอีก

วันนี้หยุดทำงาน

เมื่อคืนนี้ก็ดังเกือบตลอดคืนอีกแร้วววว
ที่หนักๆหน่อย เห็นจะเป็น ราวๆ ตอนตีสี ยี่สิบ (04.20) และ ตีห้าครึ่ง (05.30) เสียงถี่ รัว เป็นชุด
หลับๆตื่นๆ นับเสียงระเบิดได้ 2 ลูก (ก็มันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอะ ก็ติต่างว่าเป็นเสียงระเบิด)
ได้ยินเสียงปืนชัดเจนมาก คาดว่า เสียงมาจากหน้าปากซอยเลย

รู้สึกหดหู่ใจมาก ทำไม คนไทยต้องมาทำลาย เข็ญฆ่ากันเอง
ตอนนั้นก็เลยตื่น และไหว้ ขอให้คุณทหารปลอดภัย พระคุ้มครอง...สาธุ
และ หากใครทำลายชาติ ขอให้ตายตกไปตามกรรมที่ได้ทำไว้...สาธุ
ก็รู้นะว่า การแช่ง ไม่ดี แต่คนทำ ก็ต้องได้รับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป!


ตอนที่ ปื่นดังถี่ๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆระเบิดลงอะ ไฟดับเลย
แต่ดับแป็บเดียวนะ สัก 5-10 นาทีนี่แหล่ะ


วันนี้ตอน สิบโมงก่าๆ ลงไปเอาน้ำ สองถัง
ก่ะ ซื้อไข่ สิบฟอง ซื้อน้ำมันขวดเล็กหนึ่งขวด ทั้งร้านมีขวดเล็กแค่สองขวด จริงๆอยากเหมามาหมดเลย เพราะเจียวไข่บ่อยๆ อิอิ แต่ก็เผื่อคนอื่นที่เค้าไม่มีอะนะ

ตอนออกจากประตูหอ ก็ต้องเหลียวซ้ายแลขวา ก่อนนะ กลัวคุณทหารเล็ง -_-"
สรุปปากซอย ยังปิดเหมือนเดิม มีคุณทหาร หันหน้าเค้ามาตลอด ก็เลยส่งยิ้มไป อิอิ
แต่คงไม่เห็นนะ เพราะ ระยะทางการมองเห็นฟัน อาจไกลอยู่ อิอิ

ช่วงเช้ารายงานแค่นี้ก่อน

แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นอีก ...........

16/5/53

เสียงปืนดังตลอดทั้งคืน/มาม่าหมดอายุ

เมื่อคืนนี้ เข้านอน ประมาณ ตีหนึ่ง แต่เสียงปืนก็ยังดังอยู่

ตอนกลางคืน เหมือนจะดังทุกชั่วโมงเลย
แต่ก็ไม่ได้ลืมตา มาดูเวลา อะ -_-

หลับๆ ตื่นๆ อะนะ

ประมาณตีห้าครึ่ง ตื่นมาฉี่ นอนสักพัก ก็ได้ยินเสียงปืนแระ

ตื่นเช้ามา สิบโมง อ้าววววฝนตก ฟ้าร้อง
พอฝนหยุด ฟ้าเงียบ ดันมีเสียงปืนดังขึ้นอีก -_-"

ออกไปดูที่หน้าต่าง ของชั้นสาม มองไปยังปากซอย
คุณทหาร ยังกั้นลวดหนาม เหมือนเดิม

ทำเว็บต่อ..........

......เปิดดูกระป๋องข้าว อะอ้าววว เหลือข้าวอีกสองมื้อ เท่านั้น
มาม่าเหลือสองห่อ ไข่เก้าฟอง มีของจุกจิกในตู้เย็นเล็กน้อย

จะไปตลาดกัน แต่ก็ไม่ได้ไป เพราะเสียงปืนดังตลอด คาดว่าจะไม่ปลอดภัย
เลยตกลง ไปซื้อที่ร้านขายของชำ ใกล้ๆหอพัก ได้ ข้าว ไข่ มาม่า
.....อะอ้าววววว มาม่า หมดอายุ ตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว เวงกรำ -_-" ทำกันได้ ..-_-..
..........เอาหน่ะ ก็กิงมาม่า กันไป ^^


ทำเว็บต่อ..........


พรุ่งนี้ จะปกติ ดีหรือยังนะ

15/5/53

ลงไปสำรวจข้างล่าง

ประมาณ ห้าโมงเย็น ลงไปสำรวจข้างล่างมา มีประตูกั้นไม่ให้ออกจากหอ
โผล่หน้าออกไป ดูที่ปากซอย มีคุณทหารเล็งอยู่
สักพัก คุณทหารวิ่งเข้ามาหลบที่มุมร้านขายของชำ
ตกใจ เลยวิ่งหนี -_-"

ประมาณครึ่งชั่วโมง ขึ้นห้อง
สักพัก ได้ยินเสียงปืน อีกแร้ว ..-_-..

ขออย่าให้ใครเป็นอะไรเลย พระคุ้มครอง สาธุ.....


ไปทำกับข้าวแระ

คาถาแผ่เมตตา

คาถาแผ่เมตตา

(แผ่ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย)
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ
อะนีฆา โหนตุ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ


----------------------------------------------------------------------------

คาถาแผ่เมตตาตนเอง

อะหัง สุขิโต โหมิ
อะหัง นิททุกโข โหมิ
อะหัง อะเวโร โหมิ
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ

ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด


----------------------------------------------------------------------------

คาถาแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่

บทเมตตา

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่มีเวรแก่กันและกันเถิด
อัพยาปัชฌา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะนีฆา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์กาย ทุกข์ใจเถิด
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงเป็นผู้มีสุข พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

บทกรุณา

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ
จงพ้นจากทุกข์เถิด

บทมุทิตา

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ
จงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด

บทอุเบกขา

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งสิ้น
กัมมัสสะกา
เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน
กัมมะทายาทา
เป็นผู้รับผลของกรรม
กัมมะโยนิ
เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
กัมมะพันธุ
เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
กัมมะปะฏิสะระณา
เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสันติ
กระทำกรรมอันใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา
ดีหรือชั่ว
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น


----------------------------------------------------------------------------

คาถาแผ่ส่วนกุศล

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ


---------------------------------------------------------------------------

บทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร

เมื่อเสร็จพิธีทำบุญและพระสงฆ์กล่าวรับแล้วให้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเราโดยว่าดังนี้
ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนายบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ

----------------------------------------------------------------------------

ทำเว็บ ไปพร้อมๆกับเสียงปืน

ตอนนี้กำลังนั่งทำเว็บไซต์ เืพื่อส่งเข้าประกวด

โครงการประกวดออกแบบ
ตราสัญลักษณ์ (Logo) และเทมเพลต(Template)
ล้านภาพ ล้านถ้อยคำ ล้านเรื่องราว
ที่เล่าขาน "งานของในหลวง"
www.ourking.in.th


ทรงพระเจริญ



ทำไปพร้อมๆกับเสียงปืน ที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สถานที่ ราชปรารภ 14

14/5/53

แก้ปัญหาเหน็บชา

คุณเคยเป็นเหน็บชาไหม?

ถ้าเคย คุณใช้วิธีอะไรในการแก้เหน็บชา วันนี้เรามีวิธีเด็ดๆในการแก้เหน็บชา เมื่อคุณเป็นเหน็บชาเมื่อนั่งท่าเดิมนานๆ หรือ นั่งสมาธินาน(สำหรับมือใหม่) คุณก็มักจะเป็นเหน็บชา


เราขอแนะนำท่านว่า

เมื่อเป็นเหน็บชาให้คุณหากระดาษทิชชูหรือกระดาษเสียบไว้ที่นิ้วเท้าระหว่าง นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วที่ถัดไป สักครู่คุณจะรู้สึกดีขึ้นราวกับปาฎิหาริย์ (OVERเล็กน้อย) อาการจะดีขึ้น จนกระทั่งหาย ดีกว่าที่คุณจะปล่อยไว้เฉยๆให้ทรมานตัวเอง


ขอขอบพระคุณ : http://gotoknow.org/blog/chichealth/330066

เรียนผู้ส่งผลงานเข้าประกวด โลโก้ และเทมเพจ www.ourking.in.th‏

เรียนผู้ส่งผลงานเข้าประกวด โลโก้ และเทมเพจ www.ourking.in.th

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จัดให้มีการโหวตผลงานที่เข้าประกวดเว็บไซต์ www.ourking.in.th
โดยโหวตโลโก้และเทมเพจ ซึ่งแยกกันโหวต ระหว่าง โลโก้ และ เทมเพจ
ที่ได้รับความนิยมและชื่่นชอบจากผู้เข้าชม ผ่านทาง www.rdpb.go.th นั้น
ทางคณะกรรมการขอแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการเริ่มโหวต
โดยมีการเลื่อนวันที่เริ่มโหวต ผลงานการประกวดการออกแบบโลโก้และเทมเพจ
เว็บไซต์ www.ourking.in.th เริ่มโหวตตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2553
สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค. 2553 หากมีการเปลี่ยนแปลงจะทำการแจ้งทาง e-mail
แก่ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด จึงเรียนมาเพื่อทราบ

หากมีข้อสงสัย หรือสอบถามเพิ่มเติม โปรดติดต่อที่ e-mail
ourking@rdpb.mail.go.th, และ ourking@hotmail.com


ด้วยความนับถือ

ผู้ประสานงาน ศูนย์สารสนเทศ
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่อง

เป็นหวัดอีกแล้ว

เป็นหวัดทุกเดือน แย่จังอะ

เริ่มเจ็บคอ คืน วันอังคาร ที่ 11 พ.ค 53
เริ่มไม่สบาย กลาง วันพุธ ตอนดึกอาการไม่สบายเิ่พิ่มขึ้น ไอเ่่ล็กน้อย
วันพฤหัส กลางวัน ไอถี่ขึ้น
คืน พฤหัส ไอถี่มากขึ้น ไอทั้งคืน แงแง
ช่วง อังคาร - พฤหัส จามเล็กน้อย

วันนี้จามตลอดเลย น้ำมูก น้ำตาไหล แงแงแงแงแงแงแงแง



ปล. วันนี้ตั้งใจจะส่งผลงานเว็นเข้าประกวดด้วย ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า ..-_-..

12/5/53

ข้ออ้างการเมือง คุณเบื่อไหมกับคำพวกนี้

หลังจากที่บ้านเมืองของเราในตอนนี้อยู่ในสภาวะคับขันอย่างมาก ประชาชนในประเทศส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นหลายกลุ่มหลายฝ่ายชัดเจน มีทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อน้ำเงิน หรือแม้กระทั่งเสื้อหลากสี

แม้บ้างคนจะ กล่าวอ้างกับผู้อื่นว่า ตนไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนสีไหนก็ตามเหอะ..นั่นแหละมันก็หมายถึงกลุ่มแล้วละ แล้วข้อความกล่าวอ้างเหล่านี้ละ ที่หลายคนเอามาใช้พูดเพื่อให้ตัวเองมีภูมิมากขึ้น คุณๆ เบื่อๆ กันบ้างไหม

เอา เป็นว่าผมจะลองยกตัวอย่างข้อกล่าวอ้างต่างๆ ที่ได้ยินบ่อยเมื่อพูดเรื่องการเมืองขึ้นมา เป็นแบบฉบับการ์ตูนเพื่อที่จะลดทอนความแร๊งงของสถานการณ์ และเพื่อเพิ่มเติมความสนุกสนานมากขึ้นนะครับ .0. ขอให้สนุกสนานตะลาล้าาาจ๊ะ

ปล.ใครมีการ์ตูนการเมืองอย่างอื่นที่ช่วยลดและคลายความตรึงเครียด ก็นำมาลงเพิ่มเติมได้นะ ไม่ว่ากัน































ขอขอบพระคุณ : http://talk.mthai.com/topic/107813

11/5/53

หน้าแห้ง ลอก เป็นขุย

ณ ตอนนี้ เลิกใช้ นูสกินแล้วนะคะ (เลิกใช้สักพักนานแล้วแต่ไม่ได้มาอัพเดทจ้า)
เพราะใช้แล้ว ไม่ได้งามเพิ่มขึ้นเลย ..-_-.. หน้ามัน เป็นสิวเพิ่มนะคะ
10/11/12
-------------------------

สวัสดีจ้า ดอยมีเรื่อง หน้าแห้ง ลอก เป็นขุย มาบอกให้ฟัง อิอิ (เรื่องสิวไม่เกี่ยวนะ -_-")

เข้าเรื่องแระ ดอย เคยผิวหน้าลอก แห้ง แบบว่า เหี่ยวๆย่นๆ คือยับๆอะคะ เอาเป็นว่า เคยนั่งหน้ามัน แห้ง ลอก เป็นขุย อะ แต่ตอนนี้ ได้แต่นั่งหน้ามันนะ อิอิ จิงๆทาแป้งระหว่างวันก็ช่วยได้ค่ะ ดอยใช้ LM ก็งามดีนะคะ

ที่หน้าดอยหายแห้ง ลอก เป็นขุย ได้เพราะใช้ นูสกิน ค่ะ (เพื่อนแนะนำให้ใช้ค่ะ ก็เลยใช้เป็นชุดเลย)
ดอยโช๊ะเด๊ะ เลยว่า เพราะ นูสกิน จริงๆ แต่ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไรนะคะ เพิ่งใช้เมื่อ ต้นเดือน พค 53 เองค่ะ อิอิ ถ้าหากใช้ต่อไป หน้าดอยงามยิ่งๆขึ้น ก็จะเอาไปขายที่เว็บ บิ้วตี้จิง แระ www.saodoy.com/beautyjing ...เป็นตัวทดลองนะเนียะ อิอิ

ถ้ายังไม่แน่ใจ แต่อยากลองว่าได้ผลจริงๆ อย่างที่ดอยว่ามั๊ย แบ่งชุดทดลองจากดอยไปใช้ได้จ้าา

ขออภัย ที่ไม่สามารถให้ฟรี เพราะครีมแพงอ่า ชื้อชุดนี้ ดอยก็กิงมาม่าไปหลายวันแระ อิอิ

ติดต่อ
email : saodoy@live.com
Tel : 082 385 1386

โรคหน้าลอก( เซ็บเดิร์ม ) มาพร้อมหน้าหนาว

เข้าหน้าหนาวแล้วสาวๆบางคนมักจะมีอาการผิวหนังชนิดหนึ่งถามหานั่นคือ อาการหน้าลอกเป็นขุยๆและมีผื่นแดงขึ้นโดยเฉพาะบริเวณรอบจมูก รอบปาก หัวคิ้ว ไรผมหรือแม้กระทั่งรังแค เป็นที่น่ารำคาญใจทั้งตนเองและคนใกล้ชิด อาการเหล่านี้เป็นอาการแสดงของโรคหน้าลอกหรือเซ็บเดิร์ม

โรค เซ็บเดิร์มเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยมาก อาการจะเป็นๆหายๆเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้นต่างๆจะทำให้เซ็บเดิร์มมีอาการแย่ลง ดังนั้นควร

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมดัง ต่อไปนี้

1. ไม่แกะเกาผิวหนังที่ลอก ด้วยความเชื่อหรือความเคยชิน
2. หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยเกินความจำเป็น
3. หลีกเลี่ยงการใช้สบู่
4. หลี่กเลี่ยงการใช้โลชั่นทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์
5. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเพราะน้ำอุ่นทำให้หน้าแห้ง
6. หลีกเลี่ยงอาหารทะเล ของดอง กาแฟ


ปฏิบัติตัวดังนี้

1. พักผ่อนให้เพียงพอ
2. ออกกำลังกายบ้าง
3. ทาครีมบำรุงผิวแนะนำให้เป็น ครีมหรือครีมขี้ผึ้ง
4. ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
5. รับประทานผัก ผลไม้ น้ำมันปลา

เพียงเท่านี้ปัญหาเซ็บเดิร์มก็จะทุเลาลงอย่างมาก แต่หากอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด


ขอขอบพระคุณ : http://www.netanart.com/content.php?cate=article&iden=13

7/5/53

ไข่ พระอาทิตย์

ไข่ พระอาทิตย์


ไข่พระอาทิตย์ สูตรพระราชทาน

ส่วนผสม

1. ไข่ 1 ฟอง

2. ข้าวหอมมะลิสุก 1 ทัพพี

3. ซอสแม็กกี้


ไข่พระอาทิตย์" เป็นสูตรอาหารที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือ "สูตรอาหารต้นตำหรับข้าวหอมมะลิไทยในครัวนานาชาติ" โดยหนังสือเล่มนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก เพื่อ ประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิของไทยให้เป็นที่รู้จักของทุกประเทศ สำหรับที่มาและวิธีทำ ของสูตร อาหารพระราชทาน " ไข่พระอาทิตย์" กรมการค้าต่างประเทศได้อัญเชิญลายพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาบันทึกไว้ ในหนังสือ " สูตรอาหารต้นตำหรับข้าวหอมมะลิไทยในครัวนานาชาติ" ความว่า " เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยทรงประกอบอาหารพระราชทานเรียกว่า ไข่พระอาทิตย์ วิธีทำ ไข่ฟองหนึ่ง ตีให้ไข่ขาวและไข่แดงเข้ากันเหมือนเวลาจะตีไข่ทำไข่เจียว (ไม่ตีมากเหมือนทำเค้ก) ใส่ข้าวสุกประมาณทัพพีหนึ่ง เครื่องปรุงรสใส่แม็กกี้ ( ที่เมืองนอกสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเยาว์ หาน้ำปลาได้ยาก แต่สมัยนี้เราชอบใส่น้ำปลามากกว่า) ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยไม่ใส่มากเหมือนทำไข่เจียว เทไข่ผสมข้าวลงไป จนสุกตรงขอบกรอบๆ ตรงกลางแฉะๆสักนิดก็ได้


พระ เทพท่านเคยตรัสถามในหลวงว่าทำไมถึงชื่อไข่พระอาทิตย์

ท่านตอบว่าเวลาท่านส่องกล้อง ดูพื้นผิวพระอาทิตย์ขรุขระเหมือนกับอาหารจานนี้ นี่แหละ


ลองทำกันดูจ้า ดอยลองแล้ว อร่อยดีค่ะ ^^

ขอขอบพระคุณ จาก FW mail : คุณ stc_supa

6/5/53

กฎแห่งกรรม / สัมมาทิฐิ

กฎแห่ง กรรม

กฎแห่งกรรม คือ กฎที่แสดงให้เห็นถึงเหตุและผลของการกระทำใดๆของมนุษย์ กล่าวคือ ใครกระทำกรรมอันใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม บุคคลผู้กระทำนั้นจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นๆเสมอ มิได้เกิดจากการดลบันดาลจากอำนาจของพระเจ้าองค์ใด และไม่มีใครมารับผลของกรรมแทนบุคคลอื่นได้
พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระสูตรหนึ่ง ชื่อว่า ปุพพังคสูตร ปรากฏอยู่ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ว่า...

“ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะส่องสว่างเหนือโลกหล้า ย่อมมีแสงเงินแสงทองจับขึ้นที่ขอบฟ้า เป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันใด ก่อนที่กุศลธรรมทั้งหลายจะบังเกิดขึ้น ย่อมมีสัมมาทิฐิเป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันนั้น"

สัมมาทิฐิที่เป็นเบื้อง ต้นของกุศลธรรมนั้น มี ๑๐ประการ ได้แก่
๑.ทาน ที่ให้แล้วมีผล
๒.การสงเคราะห์กันมีผล
๓.การยกย่องบูชาบุคคลที่ควร บูชามีผล
๔.ผลแห่งกรรมดีและกรรมชั่วมี จริง
๕.โลกนี้มี (ที่มา)
๖.โลกหน้ามี (ที่ไป)
๗.คุณของมารดามี
๘.คุณของบิดามี
๙.สัตว์ที่เกิดแบบโอปปาติกะมี
๑๐.พระอรหันต์ผู้หมดกิเลสแล้ว มี

สัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ โดยเนื้อแท้คือเรื่องของกฎแห่งกรรม ซึ่งการที่พระพุทธองค์ตรัสสอนเรื่องสัมมาทิฐิ ๑๐ประการนี้ก่อนอย่างอื่น ก็เพราะว่าสัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ เป็นเบื้องต้นของความดีทุกประการของคนเรา การประพฤติกรรมดีหรือชั่ว หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า การกระทำความดีและความชั่วของคนเรานั้น ทำได้ ๓ทาง คือ

ทาง กาย (กายกรรม)
ทาง วาจา (วจีกรรม)
ทาง ใจ (มโนกรรม)



ไม่ว่าเราทำอะไรไว้ทั้งกรรมดีและชั่วก็ตาม เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นเสมอ จะให้ใครมารับผลกรรมแทนเราไม่ได้

เมื่อทำความเข้าใจพื้นฐานตรงนี้แล้ว ความตระหนักในความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองก็จะเกิดขึ้นตามมา มีผลที่ทำให้ใจของเขาสว่างพอที่จะมองออกต่อไปว่า พระธรรมคำสอนต่างๆที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนานี้ แท้จริงทุกคำสอนล้วนเป็นการสอนให้เกิดความเข้าใจถูก ในเรื่องกฎแห่งกรรมดีและกฎกรรมชั่ว ถ้าเราแยกไม่ออกว่าเส้นทางไหน คือ เส้นทางแห่งความดีและความชั่ว เราก็จะมีโอกาสพลาดไปทำความชั่ว แล้วผลทุกข์แห่งความชั่วก็ย่อมตกมาถึงตัวเรา

เมื่อความเข้าใจของใครก็ตาม ที่มีใจสว่างมาถึงระดับนี้ ความซาบซึ้งในเรื่อง กฎแห่งกรรมของเขาก็จะยิ่งทับทวีแก่กล้าขึ้นไป และจะส่งผลให้ตัดสินใจเลือกทำแต่กรรมดีได้อย่างถูกต้อง เช่น เริ่มตั้งแต่เลือกคิดในเรื่องดีๆ เลือกพูดในเรื่องดีๆ เลือกทำในสิ่งที่ดีๆ เลือกประกอบอาชีพที่ไม่ก่อบาปก่อเวร พากเพียรทำความดีเพิ่มยิ่งขึ้นไป มีสติระมัดระวังตนไม่ให้พลาดพลั้งกลับไปทำความชั่ว และมีสมาธิที่แน่วแน่มั่นคงในการทำความดี ไม่หวั่นไหวกับอุปสรรคใดๆที่มาขวางกั้นทั้งสิ้น ในที่สุด ความดีที่เขาทำผ่านกาย วาจา ใจ รอบแล้วรอบเล่านี้ ก็ได้กลายเป็นนิสัยดีๆประจำตัวเขาขึ้นมา แล้วก็ทำให้เขาสามารถทำความดีต่างๆให้สูงยิ่งขึ้นไป

ในทางตรงกันข้าม ถ้าสัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ไม่เกิดขึ้น แล้วอะไรจะเกิดขึ้นแทน คำตอบก็คือ ความเห็น ผิดเป็นชอบจะเกิดขึ้นแทน เมื่อเห็นผิดเป็นชอบจึงทำความชั่ว เมื่อทำความชั่วบ่อยเข้า นิสัยเลวๆก็เกิด การสั่งสมอาสวะก็เกิด ผลทุกข์ที่เดือดร้อนแสนสาหัสที่ยาวนานก็เกิด และกลายเป็นความทุกข์ที่ไม่สิ้นสุด จนกว่าจะคิดได้ในวันใดวันหนึ่ง วันนั้นจึงจะเริ่มทำความเข้าใจกฎแห่งกรรม แต่ถ้าในยุคนนั้น ไม่มีพระพุทธศาสนามาบังเกิดขึ้น ก็จะต้องทุกข์ต่อไป วันใดเข้าใจในสัมมาทิฐิเบื้องต้น ๑๐ประการ วันนั้น คือ วันที่จะได้มีโอกาสพ้นทุกข์

ดังนั้น สัมมาทิฐิเบื้องต้นทั้ง ๑๐ประการนี้ จึงเป็นเหมือนกับฐานรากของความดีทุกประการในโลกนี้ อุปมาเหมือนการสร้างตึกสูง ๑๐๐ชั้น ถ้าฐานรากของตึกไม่แข็งแรงมั่นคง ตึกก็ย่อมต้องพังถล่มลงมาเป็นซากอิฐซากปูน ฉันใด ความดีของคนเราก็เช่นกัน จะพัฒนาสูงขึ้นไปได้เรื่อยๆ ไม่ดีแตกเสียกลางทาง ก็ต่อเมื่อเขามีสัมมาทิฐิเบื้องต้น ๑๐ประการเป็นฐานรากที่แข็งแรงมั่นคง ฉันนั้น
ด้วยเหตุที่การศึกษาเรื่องสัมมาทิฐิเบื้องต้น ๑๐ประการ เป็นเรื่องใหญ่ของมวลมนุษยชาติเช่นนี้ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสว่า สัมมาทิฐิเบื้องต้น ๑๐ประการนี้ เป็นเบื้องต้นของกุศลกรรมทั้งหลายของมนุษย์ เพราะฉะนั้น เพื่อให้เราดำเนินชีวิตในโลกนี้ได้อย่างปลอดภัย เราจึงต้องศึกษาสัมมาทิฐิทั้ง ๑๐ประการนี้ให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้


ขอขอบพระคุณ : http://www.dmc.tv/pages/guide/page21.html

5/5/53

วันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม/ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม

วันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"



วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบ ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับพระบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยโดยสมบูรณ์ คือ พระองค์ได้ขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อจาก สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงได้เสด็จนิวัติในประเทศไทย และรัฐบาลไทยได้น้อมเกล้า ฯ จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 เหล่าพสกนิกรชาวไทย ได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคลรำลึก


ประวัติความเป็นมาของการจัดพิธีบรมราชาภิเษก
การจัดพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพิธีที่จัดต้อนรับหรือรับรองฐานะความเป็นประมุขของสังคม อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ซึ่งมีมาแต่ครั้งพ่อขุนผาเมือง ได้อภิเษกพ่อขุนบางกลางหาว หรือพ่อขุนบางกลางท่าว ให้เป็นผู้ปกครองเมืองสุโขทัย ดังปรากฏในหลักฐานในศิลาจารึกวัดศรีชุมของพญาลิไท

ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี พระองค์ได้ทรงฟื้นฟูวัฒนธรรมของชาติทุกสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ถูกต้องสมบูรณ์

พระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะไม่ใช้คำว่า "พระบาท" นำหน้า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และคำสั่งของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า "พระบรมราชโองการ" และที่สำคัญประการหนึ่งคือ จะยังไม่มีการใช้ นพปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตร 9 ชั้น

ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามแบบอย่างโบราณ ในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2493 เป็นวันจุดเทียนชัย และวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 อันเป็นวันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก


ขั้นตอนของพิธีที่สำคัญ แบ่งออกเป็น 5 ลำดับ ดังนี้

1. ขั้นเตรียมพิธี
2. พิธีเบื้องต้น
3. พิธีบรมราโชวาท
4. พิธีเบื้องปลาย และ
5. เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร

1. ขั้นเตรียมพิธี


นพปฎลมหาเศวตฉัตร

มี การตักน้ำและตั้งพิธีเสกน้ำสำหรับถวายเป็นน้ำอภิเษก และน้ำสรงมูรธาภิเษก สำหรับน้ำอภิเษกนั้น ต้นตำราให้ใช้น้ำจากสถานที่สำคัญต่างๆ 18 แห่ง และทำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ พุทธเจดีย์ที่สำคัญตามจังหวัดต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร แล้วส่งเข้ามาเจือปนเป็นน้ำมูรธาภิเษกให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสรง และทรงรับน้ำอภิเษกในวันพระราชพิธีราชาอภิเษกต่อไป


พระพุทธเจดีย์ที่สำคัญที่ตั้งพิธีทำน้ำอภิเษก ทั้ง 18 แห่ง คือ

1. จังหวัดสระบุรี ที่ตั้งพระพุทธบาท
2. จังหวัดพิษณุโลก ที่ตั้งวัดพระศรีมหาธาตุ
3. จังหวัดสุโขทัย ที่ตั้งวัดพระมหาธาตุ
4. จังหวัดนครปฐม ที่ตั้งพระปฐมเจดีย์
5. จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ตั้งวัดพระมหาธาตุ
6. จังหวัดลำพูน ที่ตั้งวัดพระธาตุหริภุญชัย
7. จังหวัดนครพนม ที่ตั้งวัดพระธาตุพนม
8. จังหวัดน่าน ที่ตั้งวัดพระธาตุแช่แห้ง
9. จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ตั้งวัดบึงพระลานชัย
10. จังหวัดเพชรบุรี ที่ตั้งวัดมหาธาตุ
11. จังหวัดชัยนาท ที่ตั้งวัดพระบรมธาตุ
12. จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ตั้งวัดโสธร
13. จังหวัดนครราชสีมา ที่ตั้งวัดพระนารายณ์มหาราช
14. จังหวัดอุบลราชธานี ที่ตั้งวัดศรีทอง
15. จังหวัดจันทบุรี ที่ตั้งวัดพลับ
16. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ตั้งวัดมหาธาตุ อำเภอไชยา
17. จังหวัดปัตตานี ที่ตั้งวัดตานีณรสโมสร
18. จังหวัดภูเก็ต ที่ตั้งวัดทอง


น้ำสำหรับมูรธาภิเษกเป็นน้ำที่เจือด้วยน้ำจาก ปัญจมหานทีในอินเดีย คือ แม่น้ำคงคา ยมนา อิรวดี สรภู มหิ และจากปัญจสุทธคงคา ในแม่น้ำสำคัญทั้ง 5 ของไทย คือ

แม่น้ำเจ้าพระยา ตักที่ตำบลบางแก้ว จังหวัดอ่างทอง
แม่น้ำเพชรบุรี ตักที่ตำบลท่าชัย จังหวัดเพชรบุรี
แม่น้ำราชบุรี ตักที่ตำบลดาวดึงส์ จังหวัดสมุทรสงคราม
แม่น้ำป่าสัก ตักที่ตำบลท่าราบ จังหวัดสระบุรี
แม่น้ำบางปะกง ตักที่ตำบลบึงพระอาจารย์ จังหวัดนครนายก
และน้ำ 4 สระ คือสระเกษ สระแก้ว สระคงคา สระยมนา ในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเคยใช้เป็นน้ำสรงมาแต่โบราณ

นอกจากนี้ยังมีพิธีจารึกพระ สุพรรณบัฎดวงพระบรมราชสมภพ (ดวงเกิด) และแกะพระราชลัญจกร (ดวงตราประจำรัชกาล) โดยได้มีการประกอบพิธีจารึกพระสุพรรณบัฎในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2493 ในพระอุโบสถวัดพระศรีศาสดาราม


2. พิธีในเบื้องต้น

มี การตั้งน้ำวงด้าย จุดเทียนชัย และเจริญพระพุทธมนต์ในการพระบรมราชาภิเษก


3. พิธีบรมราชาภิเษก

เริ่ม ด้วยการสรงพระมุรธาภิเษกจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรพระราชอาสน์ ราชบัณฑิตและพราหมณ์นั่งประจำ 8 ทิศ กล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล ถวายดินแดนแต่ละทิศให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคุ้มครอง (ในรัชกาลนี้ได้เปลี่ยนจากราชบัณฑิตเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทน)

ในวันที่ 5 พฤษภาคม อันเป็นวันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสรงมูรธาภิเษก แล้วทรงเครื่องต้นเสด็จออกประทับ เหนือพระที่นั่งอัฐทิศภายใต้สตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตร 7 ชั้น)
สมาชิกรัฐสภาถวายน้ำอภิเษก และพราหมณ์ทำพิธีพวายน้ำเทพมนต์เวียนไปครบ 8 ทิศ เจ้าพระยาศรีธรรมธิเบศ (จิตต์ ณ สงขลา) ประธานวุฒิสมาชิกสภา ถวายพระพรเป็นภาษามคธ และนายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎรถวายพระพรเป็นภาษาไทย พระราชครูวามเทพมุนี ถวายนพปฎลมหาเศวตฉัตร (ฉัตร 9 ชั้น) แล้วเสด็จพระราชดำเนินสู่พระที่นั่งภัทรบิฐ พราหมณ์ร่ายเวทเปิดศิวาลัยไกลาลทูลเกล้าฯ ถวายพระสุพรรณบัฎ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องราชูปโภค และพระแสงอัษฎาวุธ ด้วยภาษามคธ

สำหรับพระสุพรรณบัฎ ได้จารึกพระปรมาภิไธยว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร"

เมื่อทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ต่างๆ แล้ว พระราชครูวามเทพมุนี ถวายพระพรชัยมงคลด้วยภาษามคธ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชโองการตอบ พระราชอารักษาแต่ปวงชนชาวไทย ด้วยภาษาไทยว่า

"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"


เมื่อพระราชครูวามเทพมุนีรับ พระราชโองการด้วยภาษามคธและภาษาไทยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรางหลั่งน้ำทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจริยา
จากนั้นทรงเปลื้องพระมหาพิชัยมงกุฎ พระธำมรงค์รัตนวราวุธ และพระธำมรงค์วิเชียรจินดา จมื่นสิริวังรัตน (เฉลิม คชาชีวะ) เลขาธิการพระราชวัง ทูลเกล้าฯ ถวายดอกพิกุลทอง พิกุลเงิน ทรงโปรยพระราชทานแก่พราหมณ์ แล้วเสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณ สู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 80 รูป พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระสังฆราชถวายอดิเรกเป็นปฐม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายพระพรลา แล้วเสด็จขึ้น สมเด็จพระสังฆราชดับเทียนชัย

4. พิธีเบื้องปลาย เสด็จออกมหาสมาคม

เวลา บ่ายของวันที่ 5 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมหาสมาคม ที่พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ให้คณะรัฐมนตรี คณะฑูต สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทน และข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อกราบทูลถวายพระพรชัยมงคล โดยมี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี กราบทูลในนามคณะรัฐมนตรีและข้าราชการทั่วพระราชอาณาจักร และพระยาศรีธรรมาธิเบศ ประธานรัฐสภา กราบทูลในนามประชาชนชาวไทย แล้วทรงมีพระบรมราชโองการตรัสตอบขอบใจทั่วกัน แล้วเสด็จขึ้น

นอกจากนี้ยังมีพระราชพิธี สถาปนาสมเด็จพระราชินี ประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภกในพระบวรพุทธศาสนา ถวายพระบังคมพระบรมศพ พระบรมอัฐิ พระอัฐิพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระอัครมเหสีในรัชกาลก่อนๆ และเสด็จเฉลิมพระราชมณเฑียร



5. เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร

การ เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค จัดเป็นราชประเพณีที่สำคัญพิธีหนึ่ง เมื่อเสด็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้งนี้เพื่อให้พสกนิกร ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่



การจัดพระราชพิธีเฉลิมฉลองวันฉัตรมงคลในอดีต
แต่เดิมเป็นงานพิธีของเจ้าพนักงานในพระราชฐานที่มีหน้าที่รักษาเครื่อง ราชูปโภคและพระทวารประตูวัง ได้จัดการสมโภชสังเวยเครื่องราชูปโภคที่ตนรักษาทุกปีในเดือนหก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า ในอารยประเทศย่อมนับถือว่า วันคล้ายวันบรมราชาภิเษกเป็นวันมงคลสมัยควรเฉลิมฉลอง จึงทรงริเริ่มวันฉัตรมงคลขึ้นแต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมใหม่ อธิบายให้ใครฟังก็ไม่ค่อยเข้าใจ เผอิญวันบรมราชาภิเษกไปตรงกับวันสมโภชเครื่องราชูปโภคที่มีมาแต่เดิม จึงทรงอธิบายว่า ฉัตรมงคลเป็นวันสมโภชเครื่องราชูปโภค ทำให้ไม่มีใครติดใจสงสัยอะไร ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการเฉลิมฉลองโดยนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญพุทธมนต์ในวันขึ้น 13 ค่ำเดือน 6 รุ่งขึ้นมีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ด้วยเหตุนี้จึงถือว่า การเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล เริ่มมีในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรก

ในสมัยรัชกาลที่ 5 วันบรมราชาภิเษกตรงกับเดือน 12 จะโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานฉัตรมงคลในเดือน 12 ก็ไม่มีผู้ใหญ่ท่านใดยินยอม จึงทรงแก้ไขด้วยการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยตราจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูลขึ้น ให้มีการพระราชทานตรานี้ตรงกับวันคล้ายบรมราชาภิเษก ท่านผู้หลักผู้ใหญ่จึงยินยอม ให้เลื่อนงานวันฉัตรมงคลมาตรงกับวันบรมราชาภิเษก แต่ยังให้รักษาประเพณีสมโภชเครื่องราชูปโภคอยู่อย่างเดิม รูปงานวันฉัตรมงคลจึงเป็นดังนี้จนถึงปัจจุบัน


การจัดงานวันฉัตรมงคลในปัจจุบัน

ขั้นตอนการจัดงานวันฉัตรมงคลในปัจจุบัน มักกำหนดให้เป็น 3 วัน คือวันที่ 3 พฤษภาคม มีงานบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน คือ พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่พระบรมราชบุพการี ซึ่งเป็นพิธีสงฆ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ซึ่งในวันนี้ได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ที่จะพระราชทานแก่หน่วยทหารบางหน่วยเข้าไว้ด้วย

ใน วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มพระราชพิธีฉัตรมงคล เจ้าพนักงานจะได้อัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขึ้นประดิษฐานบนแท่นใต้พระมหาปฎลเศวตฉัตร พระครูหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล แล้วทรงสดับพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

ในวันที่ 5 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ทรงบูชาเครื่องกกุธภัณฑ์ พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช พระมหาเศวตฉัตรและราชกกุธภัณฑ์
ตอนเย็นพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าแก่ผู้มีความดีความชอบ แล้วเสด็จ นมัสการพระพทุธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี
ในวันฉัตรมงคล สำนักพระราชวังได้เปิดปราสาทหลายแห่งให้ประชาชนได้เข้าชมและถวายบังคม

ในงานพระราชพิธีฉันมงคล เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติมาครบรอบขวบปีด้วยดีอีกวาระหนึ่ง และตลอดเวลาที่ผ่านมา พระองค์ได้ประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและปวงชนชาว ไทยนับอเนกอนันต์
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ประชาชนชาวไทยจึงได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองเนื่องในวันฉัตรมงคลเป็นประจำทุกปี


เครื่องเบญจกกุธภัณฑ์


เครื่องเบญจกกุธภัณฑ์

วารวิชนี


พระแสงขรรค์ชัยศรี


ธารพระกร

พระมหาพิชัยมงกุฏ


ขอขอบพระคุณ : http://www.zabzaa.com/event/coronation.htm

รวมกลุ่มทั้งหมด

24fair.com (1) 5 พ.ค. (1) 9leather.com (1) กฎแห่งกรรม (1) กรรมชั่ว (2) กรรมฐาน (1) กรรมดี (2) กรรมสัมพันธ์กับตระกูลลู่ (1) กระดาษเหน็บเท้า (1) กระเป๋า (1) กรุ๊ปเลือด (1) กาแฟ (1) กายสดใส (1) การใช้ Articles a an the (1) การตามหาบัวหิมะ (1) การทำสมาธิ (1) การแปลงหน่วย (1) การเผชิญความหนาวเหน็บ (1) การเมือง (1) การรักษาพระเจ้าเมี่ยวจวงและการสละราชสมบัติ (1) การรับบทลงโทษที่หนักขึ้น (1) การเริ่มศึกษาพระธรรม (1) การเลือกผู้รับใช้เบื้องซ้ายขวา (1) การอำลาเพื่อมุ่งสู่ทางธรรม (1) กำเนิดพระธิดาเมี่ยว ซ่าน (1) กำไรของชีวิต (1) กุนเชียงไหม้ (1) กุศลกรรม (1) แก้ปัญหาเหน็บชา (1) ขวาน (1) ข้อคิด (1) ขอให้ทหารปลอดภัย (1) ขายภาพ (1) ขายไอศกรีมเนสท์เล่ทำยังไง (1) ขายไอศครีม (1) ข่าวเงียบจัง (1) ขำๆ (2) เขียนตัวหนังสือกลับด้าน (1) เขียนตัวหนังสือกลับหัว (1) ไข่ พระอาทิตย์ (1) คนทำลายชาติขอให้ตายตกไปตามกรรมที่ได้ทำไว้ (1) คนทำเว็บ (2) ครีมบ้านครีม (1) ครีมมยุรา (1) ครีมยูร่า (1) คลิป (1) ความเชื่อ (1) ความฝัน (1) ความรัก (1) ความสวยความงาม (13) ความหมาย website และ webpage (1) ค่าเงิน (1) คาถาเงินล้าน (1) คาถาแผ่เมตตา (1) คำคมปู่เย็น (1) คำปั๋นปอนปี๋ใหม่ (1) คำอวยพร (1) คำอวยพรปีใหม่ (1) คิดบวก (1) คุณเคยเป็นเหน็บชาไหม (1) คุณทหาร (2) เครื่องสำอาง (3) เคล็ดลับ (1) งานสาวดอย (2) งานเสริม (1) จ.น่าน (1) เจนิเฟอร์ โลเปซ (1) เจ้ากรรมนายเวร (1) เจ้านาย (1) ใจเป็นสุข (1) ฉัตรมงคล (1) ช่อง3 (1) ชอบ (1) ชายตัดต้นไม้ (1) ชื่นชอบ (1) ชื่อ (1) ชุดทดลอง (1) ญี่ปุ่น (1) ดวง (1) ดอย (2) ดารา (1) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (1) ดื่มน้ำ (1) ดื่มน้ำสมุนไพรเวลาไหนดี (1) ดื่มน้ำ-ออกกำลังกาย ลดอ้วน (1) ดูแลผิวแต่ละสัปดาห์ (1) ดูอย่างไรเครื่องสำอางค์หมดอายุ (1) เด็กซนทำเรื่องและการบรรลุธรรม (1) เดิน (1) โดยสาวดอย (1) ไดร์ผม (1) ตลก (1) ต่อมน้ำเหลือง (1) ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชค (1) ต้านอนุมูลิอสระ (1) ตำนานเจ้าแม่กวนอิม (33) ตำรวจ (1) ตุนของ (1) ตู้เนสท์เล่ (1) แต่งหน้าสวยๆ (1) ถูกแบน (1) แถบสีหลอดยาสีฟัน (1) ทรงพระเจริญ (1) ทหาร (1) ท่องเที่ยว (1) ท่องนรกภูมิ เปรตภูมิ เทวภูมิ (1) ท้องผูก (1) ท่องพรหมโลก (1) ทำความดี (1) ทำดีเป็นสิ่งที่ดี (1) ทำเพื่อเธอนะ (1) ทำเว็บไซต์ (3) ทำเว็บไซต์เพื่อในหลวง (1) เทวดา (1) เท้า (1) ธรรมะ (9) ธรรมะสำหรับคนเกิดวันจันทร์ (1) นวดหน้า (1) นอน (1) นักพรตเฒ่าลึกลับ (1) นั่ง (1) นั่งหน้ามัน (1) น้ำขิง (1) น้ำสมุนไพร (1) น้ำหนัก (1) นิคกี้9นิ้ว (1) นูสกิน (1) เนย ซินญอริต้า (1) เนื้อร้อง (2) แนะำนำตัว (1) ในหลวง (3) บททดสอบก่อนออกบวช (1) บทสวด (1) บทสวดคาถาเงินล้าน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (1) บทสวดมนต์ช่วยให้หายโรคภัย (1) บริษัททำงาน (1) บัวหิมะ (1) บีบีครีม (1) เบาหวาน (1) แบรนด์ (1) ประชาชน (1) ประเทศไทย (1) ประโยชน์ (2) ประโยชน์ของกาแฟ (1) ประวัติ (1) ประหารพระธิดา (1) ปลาเค็ม (1) ปวดหลัง (2) ปวดเอว (1) ปวดเอวซ้าย (1) ปาฏิหารย์จากแรงภาวนา (1) ปาฏิหารย์แห่งการตั้งจิตภาวนา (1) ปู่เย็น แก้วมะณี (1) เป็นหวัด (1) แปลงภาพ (1) ผลกรรมแสดงฤทธิ์ (1) ผิวหน้าเนียน (1) แผนชั่วของสองราชบุตรเขย (1) แผ่เมตตาตนเอง (1) แผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ (1) ฝัน (1) พระคุ้มครอง (2) พระเจ้าเมี่ยวจวงกลับใจ (1) พระเจ้าเมี่ยวจวงล้มป่วย (1) พระเทพ (1) พระธาตุแช่แห้ง (1) พระธิดาน้อยกับวีรกรรมในสวนอุทยาน (1) พระธิดาเมี่ยวซ่านออกบวช (1) พระบรมราชาภิเษก (1) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (1) พระโพธิสัตว์ (28) พระราชประวัติในหลวง (1) พระอาจารย์คึกฤทธิ์ (1) พลังตัวเลข (1) พายุ เรือ (1) พิมพ์เลขยกกำลัง (1) เพลงที่ชอบ (2) โพชฌังคปริตร (1) ฟอร์จูนชั้น3 (1) ฟังก์ชั่น (1) ภัยร้ายครั้งใหม่ (1) ภาพการ์ตูน (1) ภาพนิมิตในสมาธิ (1) ภูเพียงพระธาตุแช่แห้ง (1) มนต์สะกดแห่งขุนเขา (2) มนุษย์ขนและสมาชิกใหม่ (1) มวล (1) มองโลกในแง่ดี (1) มาม่าหมดอายุ (1) มารในนิมิต (1) มีกลิ่นปาก (1) เมี่ยวซ่าน (25) แม่ (1) ไม่ได้เป็นเว็บมาสเตอร์ (1) ยาที่ควรกินคู่กัน (1) ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน (1) ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง (1) ยืน (1) โยเกิร์ต (1) โยเกิร์ตทำเอง (1) รถหาย (1) รวมชื่อแบรนด์ (1) รองเท้า (1) รักคือ (1) รักษา (2) รัชดา17 (1) รับจ้าง (1) รับทำภาพถ่ายเป็นภาพวาดการ์ตูน (1) รับฝากซื้อวิตามินไอเฮิร์ป iherb (1) รับสกรีนเสื้อ (1) รับสั่งซื้อวิตามินอเมริกา (1) ราชปรารภ (2) ร่ำรวย (1) เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม (1) เริ่มศึกษาพระธรรม (1) เรือ (1) เรื่องของกลิ่นปาก (1) เรื่องย่อละคร (1) เรื่องเล่าสาวดอย (26) โรคตับจากสุรา (1) ลดน้ำหนัก (1) ลดอ้วน (1) ลมจ๋า - โจแฟ็กซ์ (1) ลอยกระทงออนไลน์ (1) ลักษณะของดาวจันทร์ (1) ลิงค์เว็บ (1) ลุงแจวเรือจ้าง (1) เลข 1-100 (1) เลื่อมพรายลายรัก (1) และแดนนิรวาณ(นิพพาน) (1) วัด (3) วัดนาป่าพง (1) วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (1) วันดี (1) วันนี้เก่งจัง (1) วันมาฆบูชา (1) วันสำคัญ (1) วิตามินอเมริกา (1) วิตามินไอเฮิร์ป (1) วิธีติดโค้ด adsense (1) วิธีแต่งหน้า (1) วิธีทาครีม (1) วิธีปลูกองุ่น (1) วิธีเป่าผมให้แห้ง (1) วิธีเลี้ยงบัวหิมะ (1) เว็บมาสเตอร์ (2) แว่นตา (1) ศรีริต้า เจนเซ่น (1) สงกรานต์ (1) ส่งเว็บเข้าประกวดไม่ทัน (1) สถานที่ (1) สมัครสมาชิกขายภาพ (1) สอนทำโฮมเพจ (2) สัพปีตีโย (1) สัมมาทิฐิ (1) สาวดอย (3) สาเหตุ (1) สิว (1) สีทาบ้าน (1) สีที่ช่วยเพิ่มพลังของโชคลาภเงินทอง (1) สี่พยัคฆ์ร้าย (1) สืบค้นข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ (1) สุขภาพ (7) สูตรขนม (1) สูตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (1) สูตรทำขนมไมตรี (1) สู่ยอดเขา พบเทพชี้ทาง (1) เสธ.แดงลาโลกแล้ว (1) เสียงปืน (3) เสียงปืนดังอีกแล้ว (1) เสียใจ (1) เสื้อแดง (3) เสื้อผ้า (1) เสื้อเหลือง (1) หน้าแห้งลอก (1) หน้าแห้งลอกเป็นขุย (1) หนุ่มนักเรียนนอก (1) หลีกเลี่ยง (1) หารายได้จาก google adsense (1) ให้ ปลดออกไปเป็นสามัญชน (1) อกุศลกรรม (1) อพยพ (1) อยากขายไอศกรีมเนสท์เล่ (1) ออกกำลังกาย (3) ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด (1) ออกเดินทางและอันตราย (1) อัดเสียงไว้ (1) อั๋น วิทยา (1) อาหาร (3) อาหารที่ไม่ควรทานร่วมกัน (1) อาหารฤทธิ์เย็น (1) อาหาร ฤทธิ์ร้อน (1) โฮมเมดโยเกิร์ต (1) a (1) An (1) BB (1) BBcream (1) Coffee (1) cosmetic (1) domainForSale (1) favicon (1) FW mail (1) google adsense (2) ico (1) icon (1) iherb (1) iherb.com (1) iherb vitamin (1) iWiSoft Flash SWF Downloader (1) jofax (1) jumMenu (1) KAครีม (1) load flash (1) MV (2) nestle (1) ourking.in.th (1) Qr Code (1) The (1) vitamin (1) vitamin USA (1) wishscreen (1) word (1)