30/6/53

บัวหิมะ : หน้าตา / วิธีเลี้ยง

เพิ่งได้บัวหิมะ มามาดๆเมื่อวานนี้เองค่ะ ก็เลยต้องเอามาโม้ไว้ซะหน่อย อิอิ


วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เป็นวิธีเลี้ยงพี่บัวหิมะส่วนตัวของดอยนะคะ (ก็ไปจำๆจากเว็บอื่นเค้ามาไง อิอิ)


เมื่อได้มาแรกเริ่ม


เอาไปกรอง ดอยใช้ผ้าขาวบางกรองอะคะ เพราะไม่มีกระชอน อิอิ


แอ่นแอ๋นแอ้นนนนนน ได้แร้ว พี่บัวหิมะ ตัวเป็นๆ
น้ำนมที่ได้ ดอยจะเอาทิ้งไปก่อน


เตรียมนมรอไว้ได้เลย ใช้นมจืดนะคะ


เทใส่พี่บัวหิมะ ได้เล้ย พอท่วม ก็พอแระ
ที่ได้มานิสเดียว ดอยก็เลยใส่ไม่ถึงครึ่งกล่องอะคะ


เสร็จแล้ว ปิดฝา เอาไปเก็บ ไม่ต้องใส่ตู้เย็นนะคะ


หากสนใจรายละเอียดเรื่องบัวหิมะ ติดตามได้ที่บล็อกดอยนะคะ เพราะจะเอาข้อมูลมาลงเรื่อยๆค่ะ
http://saodoy.exteen.com/20100630/entry-1

25/6/53

อาหาร ฤทธิ์ร้อนที่คนเป็นสิว "ควร" หลีกเลี่ยง

กลุ่มคาร์โบไฮเดรต
ข้าวเหนียว ข้าวแดง ข้าวดำ (ข้าวก่ำ ข้าวนิล) ข้าวอาร์ซี ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ เผือก มัน กลอย อาหารหวานจัด ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง

กลุ่มโปรตีน
เนื้อ นม ไข่ เห็ดโคน (เห็ดปลวก) เห็ดก่อ เห็ดไค เห็ดหอม เห็ดหลินจือ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วทอดทุกชนิด โปรตีนจากพืชและสัตว์ที่หมักดอง เช่น เต้าเจี้ยว มิโสะ โยเกิร์ต ซีอิ้ว แทมเป้ กะปิ น้ำปลา ปลาร้า เป็นต้น

กลุ่มไขมัน
รำข้าว จมูกข้าว ลูกก่อ งา เนื้อมะพร้า้ว กะทิ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดกระบก น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์ เป็นต้น

กลุ่มผักฤทธิ์ร้อน
ผักที่มีรสเผ็ด เช่น กระชาย กระเพรา ยี่หร่า โหระพา พริก แมงลัก กุ้ยช่าย (ผักแป้น) ต้นหอม หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม ผักชี พริกไทย (ร้อนมาก) ขิง ข่า (ข่าแก่จะร้อนมาก) ขมิ้น ไพล ใบมะกรูด ตะไคร้ เครื่องเทศ เป็นต้น

นอก จากนี้ยังมีพืชบางชนิดที่ไม่มีรสเผ็ดแต่ มีฤทธิ์ร้อน (มีพลังงานความร้อนหรือแคลอรี่ที่มาก) เช่น คะน้า แครอท บีทรูท กะหล่ำปลี ชะอม ถั่วฝักยาว ถั่วพู สะตอ ลูกเนียง กระเฉด ลูกตำลึง ฟักทองแก่ โสมจีน โสมเกาหลี แปะตำปึง (ร้อนเล็กน้อย) ผักกาดเขียวปลี ใบยอ ผักโขม ใบปอ ผักแขยง ยอดเสาวรส หน่อไม้ เม็ดบัว ไข่น้ำ (ผำ) สาหร่่ายทะเล สาหร่ายน้ำจืด(เทา) ไหลบัว รากบัว แพงพวยแดง ใบยอดและเมล็ดกระถิน พืชที่มีกลิ่นฉุน เป็นต้น

กลุ่มผลไม้ฤทธิ์ร้อน
เป็น กลุ่มผลไม้ที่ให้น้ำตาล วิตามินหรือธาตุอาหารที่นำไปสู่ขบวนการเผาผลาญเป็นพลังงานความร้อน (แคลอรี่) ที่มาก เ่ช่น ฝรั่ง ขนุนสุก ลิ้นจี่ เงาะ ลำไย ทุเรียน น้อยหน่า สละ องุ่น ส้มเขียวหวาน กล้วยไข่ (สำหรับกล้วยหอมทองและกล้วยหอมเขียวมีรสหวานจัดจึงมักออกฤทธิ์ตีกลับเป็น ร้อน) มะตูม ละมุด กล้วยปิ้ง ลูกลำดวน ลูกยางม่วง ลูกยางเีขียว ลูกยางเหลือง ลองกอง กระทกรก (เสาวรส) มะเฟือง มะปราง สมอพิเภก มะไฟ มะแงว ทับทิมแดง มะม่วงสุก ลูกยอ กระเจี๊ยบแดง ระกำ (ร้อนเล็กน้อย) มะขามสุก (ร้อนเล็กน้อย) เป็นต้น

อาหารที่มีฤทธิ์ร้อนมาก ถ้ากินมากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก
  • อาหาร ที่ปรุงเค็มจัด มันจัด หวานจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ฝาดจัดและขมจัด
  • อาหาร กลุ่มไขมัน เ่ช่น รำข้าว จมูกข้าว ลูกก่อ งา เนื้อมะพร้าว กะทิ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์
  • เนื้อ นม ไข่ที่มีไขมันมาก รวมถึงสารที่มีสารเร่งสารเคมีมาก
  • พืชผักผลไม้ที่มีการสารเคมีมาก
  • อาหาร ที่ปรุงผ่านความร้อนนาน ๆ ผ่านความร้อนหลายครั้ง ใช้ไฟแรง หรือใช้คลื่นความร้อนแรง ๆ
  • อาหารใส่สารสังเคราะห์ ใส่สารเคมี
  • อาหาร ใส่ผงชูรส
  • สมุนไพร หรือยาที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดหรือบำรุงเลือด
  • วิตามิน แร่ธาตุ และอาหารเสริมที่สกัดเป็นน้ำ ผง หรือเม็ด ยกเว้นมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าขาดสารดังกล่าว
  • เครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ คาเฟอีน หรือน้ำตาลที่มากเกินไป เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น
  • อาหารที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ อาหารแปรรูปหรือสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมอม ขนมกรุบกรอบ ขนมปัง อาหารกระป๋อง ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง น้ำหมัก ข้าวหมาก ปลาเค็ม เนื้อเค็ม ไข่เค็ม ของหมักดอง อาหารทะเล (จะมีทั้งไขมันและโซเดียมสูง) เป็นต้น
  • น้ำร้อนจัด เย็นจัด และน้ำแข็ง
โดยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนว่าจะงด หรือลดอะไร แค่ไหนที่ทำให้เกิดสภาพโปร่งโล่งสบาย เบากายและกำลังเต็มที่สุด

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก : http://bye-bye2acne.blogspot.com/2009/08/blog-post_3944.html

17/6/53

ไล่ฟังก์ชันได้นิหน่อย อิอิ

ก็พอดีจะทำแบบว่า เอาเมาส์ไปคลิก แล้วมีข้อมูลเลื่อนลงมา
ไม่เคยทำ แต่ก็ทำได้ ....ก็มันมีตัวอย่างแล้วนิน่า เราก็แค่เพิ่มเอง ๕๕๕๕๕




อาหารฤทธิ์ร้อน-อาหารฤทธิ์เย็น

อาหารฤทธิ์ร้อน-อาหารฤทธิ์เย็น

อาหาร ฤทธิ์ร้อน

กลุ่มคาร์โบไฮเดรต
- ข้าวเหนียว ข้าวแดง ข้าวดำ (ข้าวก่ำ ข้าวนิล) ข้าวอาร์ซี ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์
- เผือก มัน กลอย อาหารหวานจัด ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง


กลุ่ม โปรตีน
- เนื้อ นม ไข่
- ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วทอดทุกชนิด
- เห็ดโคน (เห็ดปลวก) เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดก่อ เห็ดไค เห็ดขม เห็ดผึ้ง
- โปรตีนจากพืชและสัตว์ที่หมักดอง เช่น เต้าเจี้ยว มิโสะ โยเกิร์ต ซีอิ้ว แทมเป้ กะปิ น้ำปลา ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาเค็ม
- เนื้อเค็ม แหนม ไข่เค็ม ซีอิ้ว เป็นต้น


กลุ่ม ไขมัน
ควรงดหรือลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
เพราะไขมันมี พลังงานความร้อนมากกว่าอาหารชนิดอื่นๆ เช่น
- น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์
- กะทิ เนื้อมะพร้าว
- งา รำข้าว จมูกข้าว
- เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดอัลมอลล์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดกระบก
- ลูกก่อ เป็นต้น


กลุ่มผักฤทธิ์ร้อน ผักที่มีรสเผ็ดทุกชนิด เช่น
- กระชาย กระเพรา กุ้ยช่าย (ผักแป้น) กระเทียม
- ขิง ข่า (ข่าแก่จะร้อนมาก) ขมิ้น
- ผักชี ยี่หร่า โหระพา พริก พริกไทย (ร้อนมาก) แมงลัก
- ไพล ตะไคร้ ใบมะกรูด เครื่องเทศ
- ต้นหอม หอมหัวใหญ่ หอมแดง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีพืชบางชนิดที่ไม่มีรสเผ็ด แต่มีฤทธิ์ร้อน (มีพลังงานความร้อนหรือแคลอรี่ที่มาก) เช่น
- กะหล่ำปลี กระเฉด ใบยอดและเมล็ดกระถิน ผักกาดเขียวปลี
- ผักโขม ผักแขยง
- คะน้า แครอท
- ชะอม
- บีทรูท เม็ดบัว ไหลบัว รากบัว แปะตำปึง ใบปอ ใบยอ
- แพงพวยแดง
- ถั่วฝักยาว ถั่วพู สะตอ ลูกเนียง
- ลูกตำลึง ฟักทองแก่
- โสมจีน โสมเกาหลี (ร้อนเล็กน้อย)
- ไข่น้ำ (ผำ) สาหร่่ายทะเล สาหร่ายน้ำจืด(เทา) ยอดเสาวรส หน่อไม้
- พืชที่มีกลิ่นฉุนทุกชนิด เป็นต้น


กลุ่มผลไม้ฤทธิ์ร้อน
เป็น กลุ่มผลไม้ที่ให้น้ำตาล วิตามินหรือธาตุอาหารที่นำไปสู่ขบวนการเผาผลาญ
เป็น พลังงานความร้อน (แคลอรี่) ที่มาก เ่ช่น
- กล้วยเล็บมือนาง กล้วยไข่ กระเจี๊ยบแดง กระทกรก (เสาวรส)
- สำหรับกล้วยหอมทองและกล้วยหอมเขียวมีรสหวานจัดจึงมักออกฤทธิ์ตีกลับเป็น ร้อน)
- ขนุนสุก
- เงาะ
- ฝรั่ง
- ทุเรียน ทับทิมแดง
- น้อยหน่า
- มะตูม มะเฟือง มะไฟ มะแงว มะปราง มะม่วงสุก มะขามสุก (ร้อนเล็กน้อย) มะละกอสุก (ร้อนเล็กน้อย)
- ระกำ (ร้อนเล็กน้อย)
- ลิ้นจี่ ลำไย ลองกอง ละมุด ลูกยอ ลูกลำดวน ลูกยางม่วง ลูกยางเีขียว ลูกยางเหลือง
- สละ ส้มเขียวหวาน สมอพิเภก
- องุ่น
- ผลไม้ทุกชนิดที่ผ่านความร้อน เช่น การอบ นึ่ง ปึ้ง ย่าง ต้ม หรือตากแห้ง เป็นต้น


อาหารที่มีฤทธิ์ร้อนมาก ถ้ากินมากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก

- อาหารที่ปรุงเค็มจัด มันจัด หวานจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ฝาดจัดและขมจัด
- อาหาร กลุ่มไขมัน
- เนื้อ นม ไข่ที่มีไขมันมาก รวมถึงสารที่มีสารเร่งสารเคมีมาก
- พืชผักผลไม้ที่มีการสารเคมีมาก
- อาหารที่ปรุงผ่านความร้อนนาน ๆ ผ่านความร้อนหลายครั้ง ใช้ไฟแรง หรือใช้คลื่นความร้อนแรง ๆ
- อาหารใส่สารสังเคราะห์ ใส่สารเคมี
- อาหารใส่ผงชูรส
- สมุนไพร หรือยาที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดหรือบำรุงเลือด
- วิตามิน แร่ธาตุ และอาหารเสริมที่สกัดเป็นน้ำ ผง หรือเม็ด
- ยกเว้นอาจกินได้เมื่อมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าขาดสารดังกล่าว
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คาเฟอีน หรือน้ำตาลที่มากเกินไป เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์
- ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น
- อาหาร ที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ อาหารแปรรูปหรือสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมอบ
- ขนมกรุบกรอบ ขนมปัง อาหารกระป๋อง ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง น้ำหมัก ข้าวหมาก ปลาเค็ม เนื้อเค็ม
- ไข่เค็ม ของหมักดอง อาหารทะเล (จะมีทั้งไขมันและโซเดียมสูง) เป็นต้น
- น้ำร้อนจัด เย็นจัด และน้ำแข็ง

โดยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน ว่าจะงดหรือลดอะไร แค่ไหนที่ทำให้เกิดสภาพโปร่งโล่งสบาย เบากายและกำลังเต็มที่สุด




************

อาหารฤทธิ์เย็น

กลุ่มคาร์โบไฮเดรต
- น้ำตาล ข้าวขาว เส้นขาว (เส้นหมี่. เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ไม่มีน้ำมัน) วุ้นเส้น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องเหลือง
สำหรับ น้ำตาล ข้าวขาว เส้นขาว และวุ้นเส้นกินเพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาที่ร่างกายร้อนมากๆ


กลุ่ม โปรตีน
- ถั่วขาว ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ถั่วโชเล่ย์ขาว ลูกเดือย
- เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดขอนขาว เห็ดลม(เห็ดบด) เห็ดตาโล่ เห็ดตีนตุ๊กแก


กลุ่มผักฤทธิ์เย็น
- กระหล่ำดอก ก้านตรง กวางตุ้ง ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดขาว ผักกาดหอม
- หยวกกล้วย ปลีกล้วย ก้านกล้วย กล้วยดิบ หัวไช้เท้า (ผักกาดหัว) ก้างปลา
- ข้าวโพด ขนุนดิบ ดอกสลิด (ดอกขจร) ฝัก/ยอด/ดอกแค
- ใบเตย ผักติ้ว ตังโอ๋ ใบ/ยอดตำลึง
- ถั่วงอก
- บัวบก สายบัว ผักบุ้ง บล๊อกเคอรี่ บวบ
- ปวยเล้ง ผักปลัง
- พญายอ (เสลดพังพอนตัวเมีย)
- ฟักทองอ่อน ยอดหรือดอกฟักทอง ยอดฟักข้าว ยอดฟักแม้ว ฟัก แฟง แตงต่างๆ
- มะละกอดิบ-ห่าม มะเขือเปราะ มะเขือลาย มะเขือยาว มะเขือเทศ มะเดื่อ มะอึก ใบมะยม ใบมะขาม
- มังกรหยก มะรุม ยอดมะม่วงหิมพานต์
- ย่านางเขียว-ขาว
- รางจืด
- ว่านกาบหอย ว่านหางจระเข้ ว่านมหากาฬ ทูน (ตูน) ว่านง็อก (ใบหูลิง) ผักว่าน
- โสมไทย ใบส้มป่อย ส้มเสี้ยว ส้มรม ส้มกบ
- หมอน้อย ผักหวานป่า ผักหวานบ้าน เหงือกปลาหมอ ผักโหบแหบ
- อ่อมแซบ (เบญจรงค์) ยอดอีสึก (ขุนศึก) อีหล่ำ

กลุ่มผลไม้ฤทธิ์ เย็น
- กล้วยน้ำว้าห่าม กล้วยหักมุก แก้วมังกร กระท้อน
- แคนตาลูป
- ชมพู่ เชอรี่
- แตงโม แตงไทย
- ทับทิมขาว ลูกท้อ
- มังคุด มะยม มะขวิด มะดัน มะม่วงดิบ มะละกอดิบ-ห่าม มะขามดิบ
- น้ำมะนาว น้ำมะพร้าว
- ลางสาด
- สับปะรด สตรอเบอรี่ สาลี่ ส้มโอ ส้มเช้ง ส้มซ่า ส้มเกลี้ยง สมอไทย
- ลูกหยี หมากเม่า หมากผีผ่วย
- แอปเปิ้ล



เรียบเรียงโดยใช้ข้อมูลจาก ถอดรหัสสุขภาพ เล่ม ๒ "ความลับฟ้า: ถ้าสุขภาพพึ่งตนเกิดไม่ได้ หมอและคนไข้จะพากันป่วยตาย" โดย ใจเพชร มีทรัพย์ (หมอเขียว)

ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pat-naja&month=20-10-2009&group=11&gblog=5

16/6/53

ไม่ได้เป็นเว็บมาสเตอร์

จากที่ได้อ่านข้างล่าง ตัวเราไม่ได้เป็นเว็บมาสเตอร์ที่ทำงาน (ตั้งแต่วันแรกเริ่มที่เข้าทำงาน... คิดมาตลอด มันคือเรื่องจริง -_-")

เรื่อง :: ก่อนจะเรียกตนเองว่าเป็นเว็บมาสเตอร์คุณต้อง....

บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นข้อคิดเล็ก ๆ นะครับ สำหรับผู้ที่กำลังทำเว็บไซต์อยู่ อีกอย่างผมมักจะเห็นตามหนังสือสอนทำเว็บต่าง ๆ มักเขียนในเชิงว่า แค่มี Internet ก็สามารถเป็น webmaster ได้ ผมเห็นหน้าปกแล้วก็...เหนื่อยแทนเลยครับ เพราะอะไรมาลองอ่านกันนะครับ

เว็บมาสเตอร์คือใคร

เว็บมาสเตอร์ (webmaster) คือ ผู้ที่ดูแลเว็บไซต์ ผู้ที่จะคอยควบคุมทิศทางของเว็บไซต์นั้น ๆ ว่าจะเป็นและจะออกมาในรูปแบบใด ตั้งแต่เนื้อหาภายในเว็บ ตลอดจนถึงหน้าตาของเว็บเพจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเว็บมาสเตอร์อาจจะไม่ต้องทำเองทั้งหมด หรือจะไม่ทำเลยทั้งหมดก็เป็นได้ครับ เพราะตัวเว็บมาสเตอร์เปรียบไปแล้วก็เหมือยผู้บริหารองค์กร ๆ หนึ่งครับ คือคอยดูแล กำหนดแนวทาง แค่นั้นก็ได้ครับ

หน้าที่ของเว็บมาสเตอร์

อย่างที่ กล่าวไป...เว็บมาสเตรอ์คือผู้ที่ดูแลเว็บไซต์ทั้งหมด หน้าที่ก็จะต้องดูแลเว็บทั้งหมดครับ รวมถึงดูแลในส่วนของข้อมูลต่าง ๆ รับผิดและรับชอบหากเกิดกรณีข้อมูลภายในเว็บมีปัญหาอันอาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น ข้อมูลในเว็บดันไปละเมิดสิทธิ์เขา อันนี้เว็บมาสเตอร์รับไปเต็ม ๆ ไม่ต้องแบ่งใครเลยครับ คือ เกิดอะไรจะดีหรือไม่ดี เขาจะทวงติงมาที่เว็บมาสเตอร์แต่เพียงผู้เดียวครับ

เว็บมาสเตอร์ต้องรู้อะไรบ้าง

อันนี้สำคัญ...อย่างที่บอกเว็บมาสเตอร์จะเป็นเหมือน ผู้บริหารองค์กร ฉะนั้นตัวเว็บมาสเตอร์ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการทำเว็บไปเสียทั้งหมด แต่เว็บมาสเตอร์ต้องเข้าใจใน Concept ทั้งหมดของสิ่งนั้น ๆ เช่น ต้องเข้าใจว่า HTML มีหน้าที่อะไร ทำงานอย่างไร และควรเขียนได้ (ถ้าไม่รู้ HTML ก็อย่าเรียกว่าตนเองคือ webmaster เลยครับ.. อายเขา) ต้อง เข้าใจว่าภาษาโปรแกรมต่าง ๆ ที่นำมาใช้ทำเว็บนั้นแตกต่างกันอย่างไร เช่น JavaScript ต่างจากภาษาประเภท Server Side อย่างไร เป็นต้น เข้าใจว่า Flash มี Concept ในการทำงานอย่างไร และสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง เป็นต้น

ยังมีอีกหลายสิ่งที่เว็บมาสเตอร์ต้องรู้ เช่นเรื่องของ Protocol, URL, FTP, Image, Web Server, DataBase พวกนี้เว็บมาสเตอร์ต้องรู้และเข้าใจ อาจจะไม่เก่งหรือใช้ไม่เป็นเลยก็ได้ ที่สำคัญต้องรู้ Concept ในทุกอย่างที่กล่าวมา ว่าสิ่งใดใช้ทำอะไร และสิ่งนั้นมีความสามารถขนาดไหน ถ้าไม่รู้สิ่งเหล่านี้..ผมว่าอย่าเพิ่งเรียกตนเองว่าเป็น Webmaster เลยครับ อันตรายครับ



อ่านรายละเอียดเต็มๆได้ที่นี่ : http://www.dwthai.com/Article/know_webmaster.htm

14/6/53

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน ......... ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ?

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน ......... ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ?

ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง วันนี้..ก็เหมือนเคย
แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก
ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก
( โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )

แม่มาเคาะประตูห้อง ...
“ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว “
ฉันหงุดหงิดมาก ........... โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้
เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย
“ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก
อยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย “ ........
แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว
.... แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ “
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที

ถึงที่ทำงาน
“ ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ .. ขอโทษค่ะพี่ ...รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อยสิ “

... ได้ค่ะพี่ ...
วิ่งเข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ..
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ ..
มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....

ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ
จะเอาไปซักน่ะ “
หาไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนน่ะแหละ

เมื่อเช้าหนูรีบ .......
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่
ยังงัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....

“ เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า

ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา
พี่ลงไปทานข้าวเถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร..บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน

... พี่คะ
เจอแล้วนะคะ พี ่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ้าว..เหรอ “ รับเอกสาร?ืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย

พี่กลับก่อนล่ะ ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
.. ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม .. พี่ขา หนูแก้ไข

และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ

“ กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? “
... เงียบไม่มีเสียงตอบ
ไม่มีรอยยิ้ม ...
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ..
หนูเหนื่อยมากเลยแม่
หนูอยากพักผ่อน
กำลังจะเดินขึ้นห้อง ..
ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ...เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ..
อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ
กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ


แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .

แม่แอบร้องไห้ ... เ พราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต
เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ฉันเริ่มทบทวน... เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนฉัน

กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ...

แม่ ...
หนูขอโทษ
ใคร ??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง ......


..............................................................................

ใน ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง

คุณอาจจะมีเจ้านายนับไม่ถ้วน แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....

คุณมีแม่มีเพียงคนเดียวค่ะ คนเดียวจริงๆ ทำดีกับท่านไว้เถอะค่ะ

อย่าทำให้ท่านต้องร้องไห้เพราะการกระทำของคุณเลย....

คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน แต่ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย

ตรงกันข้ามท่านกลับรักและเป็นห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....


อ่านแล้วเศร้าจัง ...-_-...


ขอขอบพระคุณ : FW mail

9/6/53

making the eyes appear Larger and Brighter




MichellePhan — June 13, 2007 — As requested, a makeup tutorial on making the eyes appear Larger and Brighter. This is a great trick to use when...

7/6/53

ประวัติ ปู่เย็น แก้วมะณี



ประวัติ ปู่เย็น แก้วมะณี

ปู่ เย็นเกิดเมื่อปีฉลู พ.ศ. 2443 ที่จังหวัดเพชรบุรี เป็นบุตรของนายสุขและนางชม แก้วมะณี นับถือศาสนาอิสลาม มีที่อยู่ตามทะเบียนราษฎรเลขที่ 274/4 ถนนมาตยาวงศ์ ตำบลท่าราบ อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ท่านมีภรรยา 1 คนชื่อ นางเอิบ แก้วมะณี เป็นชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นับถือศาสนาพุทธ ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยไม่เปลี่ยนศาสนาและไม่มีบุตรธิดาเพราะปู่เย็นเป็นหมัน แต่ก็มีลูกสาวบุญธรรม 2 คน

ในสมัยหนุ่มๆ ปู่เย็นมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว เมื่อแก่ชราจึงอาศัยอยู่กับลูกสาวบุญธรรมคนหนึ่งและภรรยา จนกระทั่งเมื่อย่าเอิบผู้เป็นภรรยาเสียชีวิตในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2536 ปู่เย็นรู้สึกเสียใจมากร้องไห้นานถึง 3 เดือน หลังจากนั้นจึงตัดสินใจย้ายไปอาศัยอยู่ในเรือที่เชิงสะพานลำไยในแม่น้ำ เพชรบุรี ดำรงชีวิตด้วยการดักอวนหาปลา ถ้าเหลือกินก็จะขายให้ในราคาถูก แต่ถ้าใครเอาเงินให้ปู่เย็นฟรีๆ ท่านจะไม่รับและรู้สึกโกรธ เพราะอุปนิสัยของปู่เย็นคือไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร มีแต่ความสงสารและเกรงใจคนอื่นๆ




ปรากฏ ในสื่อ

สะพานลำใย หน้าวัดมหาธาตุ จังหวัด เพชรบุรี
สถานที่ปู่เย็น
จอดเรืออยู่เป็นประจำ

ปู่เย็นเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศเมื่อรายการ "คนค้นฅน" ซึ่งเป็นรายการสารคดีโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี นำเรื่องราวของท่านออกเผยแพร่ในชื่อตอน "ปู่เย็น เฒ่าทระนง" ออกอากาศเมื่อคืนวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 และอีก 2 ตอนต่อมา และได้รับความนิยมจากผู้ชมทั่วประเทศ กระแสความนิยมปู่เย็นก็เกิดขึ้นจากคติการใช้ชีวิตซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ความเรียบง่าย ความพอเพียง และความอารมณ์ดีของตัวปู่เย็นเอง กระทั่งมีการเรียกร้องให้นำเอาเทปรายการดังกล่าวมาออกอากาศอีกครั้ง


จาก การที่กระแสความนิยมของปู่เย็นเกิดขึ้นทั่วประเทศนี่เอง ชื่อของปู่เย็นจึงได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแม่น้ำเพชรบุรีและ จังหวัดเพชรบุรีไปโดยปริยาย และมีคนมาเยี่ยมเยียนท่านอยู่เสมอ และต่อมาก็ปู่เย็นได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถโดยการรับพระราชทานเรือลำใหม่ซึ่งทำด้วยไฟ เบอร์กลาส เพื่อใช้แทนเรือเหล็กลำเดิมที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2548 ซึ่งปู่เย็นได้อาศัยในเรือลำนี้มาตลอดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

อย่าง ไรก็ตาม แม้ปู่เย็นจะเป็นคนดังไปทั่วทั้งประเทศแล้ว แต่ปู่เย็นก็ยังคงใช้ชีวิตตามวิถีเดิมของท่านต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง ระยะหลังชื่อของปู่เย็นค่อยๆ เงียบหายไปตามกาลเวลา แต่มีข่าวคราวบ้างเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยต่างๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดคือเกิดเหตุเรือของปู่เย็นล่มในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551 จากพายุฝน ต้องส่งเรือไปซ่อมที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรี อยุธยา และได้มีการมอบเรือให้ปู่เย็นหลังซ่อมแซมเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปีเดียวกัน อนึ่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีจึงได้สั่งการให้มีคณะพยาบาลคอยตรวจสุขภาพปู่ เย็นเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551 คณะพยาบาลที่มาตรวจอาการปู่เย็นเป็นประจำได้มาหาปู่เย็นเพื่อตรวจสุขภาพของ ปู่เย็นตามปกติ แต่เกิดผิดสังเกตที่ไม่มีเสียงขานรับจากปู่เย็นจึงได้ลงไปที่เรือและพบว่า ปู่เย็นนอนหมดสติไม่รู้สึกตัว คณะพยาบาลจึงได้รีบนำตัวปู่เย็นส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพื่อทำการช่วยชีวิต แต่ที่สุดปู่เย็นก็เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. เนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลว ขณะที่ปู่เย็นมีอายุได้ 108 ปี ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้พระราชทานเงินช่วยเหลืองานศพของปู่เย็น ผ่านทางจังหวัดจำนวน 200,000 บาท โดยร่างของปู่เย็นได้มีการทำพิธีฝังศพที่กุโบร์ (สุสาน) ของมัสยิดกลางจังหวัดเพชรบุรี ตำบลท่าแร้ง อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี


คำ คมของปู่เย็น

ดู แต่หอยซิ ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากินเองได้
ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย


ขายอย่า ให้แพง คนเขาจะได้กินลง
ฉัน ขาย [ปลาที่ปู่เย็นหาได้] ถูกๆ เอาไปเถอะ ซื้อไปแกงให้พอหม้อ


กินฟรีได้ แต่ไม่อยากกิน เกรงใจ ไม่เอา อาย
ของเขาซื้อเขาขาย ไหนต้องตัก ไหนต้องล้าง


มี ก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน ไม่ขอใคร คนเราอดตาย หายาก ถ้าไม่เจ็บไม่ไข้


ชีวิตคนก็เหมือนสะพาน มีขึ้น มีลง มีสูง มีต่ำ พอสุดท้าย ก็ตาย


ขอขอบพระคุณ :
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%99_%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%93%E0%B8%B5

6/6/53

บทสวด โพชฌังคปริตร (บทสวดมนต์ช่วยให้หายโรคภัย)

บทสวด โพชฌังคปริตร (บทสวดมนต์ช่วยให้หายโรคภัย)

โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
( โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ )

วิริยัมปีติ ปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
( วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ )

สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
( สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ )

สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา
( 7ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว )

ภาวิตา พะหุลีกะตา
( อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว )

สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
( ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ )

เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา
( ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ
และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก )

โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
( จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง )

เต จะ ตัง อะภินันทิตวา
( ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม )

โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
( โรคก็หายได้ในบัดดล )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ )

เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
( ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก )

จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
( รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ )

สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
( ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ )

ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
( ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก )

มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
( ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ ฯ. )


โพชฌังคปริตร ถือเป็นพุทธมนต์ที่ช่วยให้คนป่วยที่ได้สดับตรับฟังธรรมบทนี้แล้วสามารถหายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ที่เชื่ออย่างนี้เพราะมีเรื่องในพระไตรปิฎกเล่าว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปเยี่ยม พระมหากัสสปะ ที่อาพาธ พระองค์ทรงแสดงสัมโพชฌงค์แก่พระมหากัสสปะ พบว่าพระมหากัสสปะสามารถหายจากโรคได้

อีกครั้งหนึ่งพระองค์ได้ทรงแสดงธรรมบทนี้แก่ พระโมคคัลลานะ ซึ่งอาพาธ หลังจากนั้นพบว่า พระโมคคัลลานะก็หายจากอาพาธได้ในที่สุด เมื่อพระพุทธองค์เองทรงอาพาธ จึงตรัสให้ พระจุนทะเถระ แสดงโพชฌงค์ถวาย ซึ่งพบว่าพระพุทธเจ้าก็หายประชวร

พุทธศาสนิกชนจึงพากันเชื่อว่า โพชฌงค์นั้น สวดแล้วช่วยให้หายโรคได้ ซึ่งในพระไตรปิฎกกล่าวว่า ธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นธรรมเกี่ยวกับปัญญา เป็นธรรมชั้นสูง ซึ่งเป็นความจริงในเรื่องการทำใจให้สว่าง สะอาดผ่องใส ซึ่งสามารถช่วยรักษาใจ เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับร่างกาย เนื่องจากกายกับใจเป็นสิ่งที่อาศัยกันและกัน จึงทำให้หายจากโรคได้


ขอขอบพระคุณ : http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=823
ขอขอบพระคุณ : http://www.dhammathai.org/sounds/photchangkhaparit.php โหลดบทสวดไว้ฟัง

3/6/53

ทาครีมแล้ว นวดหน้าด้วยสิ ผิวดีขึ้นเห็นๆ

ในเมื่อเราทาครีมบำรุงผิวหน้ากันอยู่ทุกวัน จะดีสักแค่ไหนนะ ถ้าเป็นการทาไปนวดผิวไป ครีมจะได้ซึมลงสู่ผิวดีขึ้น และยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง ออกกำลังผิวให้แข็งแรงขึ้นไปพร้อมๆ กันด้วย



ก่อนอื่น เราเคยสงสัยไหมว่า การทาครีมยังไงกันนะที่จะทำให้ครีมลงสู่ผิวได้ดี สกินแคร์บางยี่ห้อบอกเราว่า ทาแบบซับๆ กดเบาๆ ก็พอ บ้างก็บอกว่าทาวนเป็นวงกลมไล่ขึ้นไป นานาไอเดียที่ไม่รู้จะเชื่อใครนี้ คุณหมอแนวทางธรรมชาติอย่างคุณหมอกอบกาญจน์ ไพบูลศิลป แห่งศูนย์บัลวี และนักเขียนเว็บไซต์ sabai-arom.com ในคอลัมน์ Green Beauty Guide แนะนำไว้น่าสนใจทีเดียวว่า



"ก่อนลงครีม อย่างแรกเลยต้องดูว่าใบหน้าเราสะอาดหรือเปล่า ต้องไม่มีเครื่องสำอางตกค้าง ไม่เช่นนั้นแล้ว เครื่องสำอางที่มาจากสารเคมีอาจจะซึมลงไป ซึ่งอาจทำให้ผิวเราระคายเคือง หรือทำปฏิกิริยากับครีมนั้นได้



จะว่าไปแล้ว เทคนิคการทาครีม ไม่ว่าการตบหรือการกดซับนั้นไม่ได้ต่างกันมาก เป็นการสร้างซิกเนเจอร์ของแบรนด์มากกว่า สำคัญที่ว่า เราทาได้ทั่วและลงน้ำหนักมือพอดีหรือเปล่า ทาให้ทั่วก็คือแต้มครีมสักห้าจุดบนใบหน้า คือหน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูกและคาง แล้วเกลี่ยให้ทั่ว จากนั้นนวดหน้าเบาๆ ซึ่งยังเป็นการไล่น้ำเหลือง ที่ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้นด้วย ลองสังเกตดูสิคะว่าบางวันเราตื่นมาหน้าแล้วหน้าบวมๆ นั่นก็เพราะการไหลเวียนน้ำเหลืองไม่ดี ซึ่งการนวดกระตุ้นนี่เองที่ช่วยได้



ส่วนที่เขาบอกกันว่าให้ใช้นิ้วนางหรือนิ้วกลาง อาจเป็นเพราะสองนิ้วนี้เราใช้กันไม่ถนัด จึงทำให้ลงน้ำหนักได้เบามือ แต่จริงๆ แล้วเราใช้นิ้วใดก็ได้ค่ะ เพียงแค่ลงน้ำหนักเบาๆ คล้ายๆ กับตอนที่เราเอาสำลีไปเช็ดหน้า แต่ไม่ต้องกด ไม่ต้องออกแรงมากนั่นเอง"



แล้วถ้าได้ทาครีมไป นวดหน้าไปด้วยล่ะ
เป็น เรื่องดีแน่ เพราะคุณหมอก็เห็นด้วยว่าการนวดนั้นดีกับเราจริงๆ อย่างคนสมัยก่อนก็เอาเทคนิคการนวดนี่ละ มาเป็นผู้ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ระบายของเสีย และยังกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานดีไปในตัว ผิวหน้าจึงแข็งแรง สดใส เปล่งปลั่งขึ้นได้หากเรานวดบ่อยๆ ว่าแล้วทาครีมบำรุงผิวคราวหน้า ลองพก 8 ขั้นของการนวดหน้าแบบนี้ไปใช้ดู

Step 1: ล้างมือให้สะอาด งานนี้นิ้วมือเท่านั้นที่จะนวดผิวหน้า

Step 2:
ทาครีมที่เหมาะกับสภาพผิวในช่วงเวลานั้นๆ เช่น หากเวลานั้นหน้าแห้งมาก ก็ควรเป็นครีมเนื้อเข้มข้น เป็นต้น จากนั้น แต้มครีมลงบนใบหน้า 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง

Step 3:
ทาครีมที่แต้มไว้ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นเริ่มนวดโดยใช้นิ้วชี้แต่ละข้างกดไปที่หัวคิ้วทั้งสอง แล้วค่อยๆ ไล่วนตรงขึ้นไปถึงไรผม แล้วไล่กดตามแนวไรผมลงมาในแต่ละข้างจนถึงขมับ ทำอย่างนี้ซ้ำอีก 3 - 4 ครั้ง

Step 4: ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางแต่ละข้างนวดขมับซ้ายขวา วนเป็นวงกลม จากนั้นนวดวนไล่ตามไรผมผ่านกรามลงมาจนถึงคาง

Step 5: ใช้นิวชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง แตะตรงปลายจมูกแต่ละข้าง จากนั้นลูบออกไปจนถึงขมับ ทำซ้ำอีก 2 ครั้งและไล่ระดับต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงระดับคาง

Step 6: นวดวนรอบดวงตากันบ้าง เริ่มจากใช้นิ้วนางแตะที่ขมับ จากนั้นลากลงเบาๆ จนโค้งไปทางหัวตา จนนิ้วไปหยุดที่หัวคิ้ว ทำซ้ำอย่างนี้อีก 4 -5 ครั้ง

Step 7: นวดใบหูสักหน่อย ด้วยการใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้นวดติ่งหูเบาๆ จากนั้นค่อยๆ บีบไล่ขึ้นไปเบา ๆ จนถึงใบหูด้านบน แล้วไล่ลงมาอีกครั้ง ทำซ้ำสัก 4 - 5 รอบ

Step 8: ถูฝ่ามือเบาๆ จนรู้สึกอุ่น จากนั้นนำฝ่ามือมาอังรอบดวงตาให้รู้สึกผ่อนคลายสักครู่ เท่านี้ก็รู้สึกสบายหน้าและสบายผิวไม่น้อยแล้ว


ขอขอบพระคุณ : http://www.yorkza.com/content/8785/

รวมกลุ่มทั้งหมด

24fair.com (1) 5 พ.ค. (1) 9leather.com (1) กฎแห่งกรรม (1) กรรมชั่ว (2) กรรมฐาน (1) กรรมดี (2) กรรมสัมพันธ์กับตระกูลลู่ (1) กระดาษเหน็บเท้า (1) กระเป๋า (1) กรุ๊ปเลือด (1) กาแฟ (1) กายสดใส (1) การใช้ Articles a an the (1) การตามหาบัวหิมะ (1) การทำสมาธิ (1) การแปลงหน่วย (1) การเผชิญความหนาวเหน็บ (1) การเมือง (1) การรักษาพระเจ้าเมี่ยวจวงและการสละราชสมบัติ (1) การรับบทลงโทษที่หนักขึ้น (1) การเริ่มศึกษาพระธรรม (1) การเลือกผู้รับใช้เบื้องซ้ายขวา (1) การอำลาเพื่อมุ่งสู่ทางธรรม (1) กำเนิดพระธิดาเมี่ยว ซ่าน (1) กำไรของชีวิต (1) กุนเชียงไหม้ (1) กุศลกรรม (1) แก้ปัญหาเหน็บชา (1) ขวาน (1) ข้อคิด (1) ขอให้ทหารปลอดภัย (1) ขายภาพ (1) ขายไอศกรีมเนสท์เล่ทำยังไง (1) ขายไอศครีม (1) ข่าวเงียบจัง (1) ขำๆ (2) เขียนตัวหนังสือกลับด้าน (1) เขียนตัวหนังสือกลับหัว (1) ไข่ พระอาทิตย์ (1) คนทำลายชาติขอให้ตายตกไปตามกรรมที่ได้ทำไว้ (1) คนทำเว็บ (2) ครีมบ้านครีม (1) ครีมมยุรา (1) ครีมยูร่า (1) คลิป (1) ความเชื่อ (1) ความฝัน (1) ความรัก (1) ความสวยความงาม (13) ความหมาย website และ webpage (1) ค่าเงิน (1) คาถาเงินล้าน (1) คาถาแผ่เมตตา (1) คำคมปู่เย็น (1) คำปั๋นปอนปี๋ใหม่ (1) คำอวยพร (1) คำอวยพรปีใหม่ (1) คิดบวก (1) คุณเคยเป็นเหน็บชาไหม (1) คุณทหาร (2) เครื่องสำอาง (3) เคล็ดลับ (1) งานสาวดอย (2) งานเสริม (1) จ.น่าน (1) เจนิเฟอร์ โลเปซ (1) เจ้ากรรมนายเวร (1) เจ้านาย (1) ใจเป็นสุข (1) ฉัตรมงคล (1) ช่อง3 (1) ชอบ (1) ชายตัดต้นไม้ (1) ชื่นชอบ (1) ชื่อ (1) ชุดทดลอง (1) ญี่ปุ่น (1) ดวง (1) ดอย (2) ดารา (1) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (1) ดื่มน้ำ (1) ดื่มน้ำสมุนไพรเวลาไหนดี (1) ดื่มน้ำ-ออกกำลังกาย ลดอ้วน (1) ดูแลผิวแต่ละสัปดาห์ (1) ดูอย่างไรเครื่องสำอางค์หมดอายุ (1) เด็กซนทำเรื่องและการบรรลุธรรม (1) เดิน (1) โดยสาวดอย (1) ไดร์ผม (1) ตลก (1) ต่อมน้ำเหลือง (1) ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชค (1) ต้านอนุมูลิอสระ (1) ตำนานเจ้าแม่กวนอิม (33) ตำรวจ (1) ตุนของ (1) ตู้เนสท์เล่ (1) แต่งหน้าสวยๆ (1) ถูกแบน (1) แถบสีหลอดยาสีฟัน (1) ทรงพระเจริญ (1) ทหาร (1) ท่องเที่ยว (1) ท่องนรกภูมิ เปรตภูมิ เทวภูมิ (1) ท้องผูก (1) ท่องพรหมโลก (1) ทำความดี (1) ทำดีเป็นสิ่งที่ดี (1) ทำเพื่อเธอนะ (1) ทำเว็บไซต์ (3) ทำเว็บไซต์เพื่อในหลวง (1) เทวดา (1) เท้า (1) ธรรมะ (9) ธรรมะสำหรับคนเกิดวันจันทร์ (1) นวดหน้า (1) นอน (1) นักพรตเฒ่าลึกลับ (1) นั่ง (1) นั่งหน้ามัน (1) น้ำขิง (1) น้ำสมุนไพร (1) น้ำหนัก (1) นิคกี้9นิ้ว (1) นูสกิน (1) เนย ซินญอริต้า (1) เนื้อร้อง (2) แนะำนำตัว (1) ในหลวง (3) บททดสอบก่อนออกบวช (1) บทสวด (1) บทสวดคาถาเงินล้าน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (1) บทสวดมนต์ช่วยให้หายโรคภัย (1) บริษัททำงาน (1) บัวหิมะ (1) บีบีครีม (1) เบาหวาน (1) แบรนด์ (1) ประชาชน (1) ประเทศไทย (1) ประโยชน์ (2) ประโยชน์ของกาแฟ (1) ประวัติ (1) ประหารพระธิดา (1) ปลาเค็ม (1) ปวดหลัง (2) ปวดเอว (1) ปวดเอวซ้าย (1) ปาฏิหารย์จากแรงภาวนา (1) ปาฏิหารย์แห่งการตั้งจิตภาวนา (1) ปู่เย็น แก้วมะณี (1) เป็นหวัด (1) แปลงภาพ (1) ผลกรรมแสดงฤทธิ์ (1) ผิวหน้าเนียน (1) แผนชั่วของสองราชบุตรเขย (1) แผ่เมตตาตนเอง (1) แผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ (1) ฝัน (1) พระคุ้มครอง (2) พระเจ้าเมี่ยวจวงกลับใจ (1) พระเจ้าเมี่ยวจวงล้มป่วย (1) พระเทพ (1) พระธาตุแช่แห้ง (1) พระธิดาน้อยกับวีรกรรมในสวนอุทยาน (1) พระธิดาเมี่ยวซ่านออกบวช (1) พระบรมราชาภิเษก (1) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (1) พระโพธิสัตว์ (28) พระราชประวัติในหลวง (1) พระอาจารย์คึกฤทธิ์ (1) พลังตัวเลข (1) พายุ เรือ (1) พิมพ์เลขยกกำลัง (1) เพลงที่ชอบ (2) โพชฌังคปริตร (1) ฟอร์จูนชั้น3 (1) ฟังก์ชั่น (1) ภัยร้ายครั้งใหม่ (1) ภาพการ์ตูน (1) ภาพนิมิตในสมาธิ (1) ภูเพียงพระธาตุแช่แห้ง (1) มนต์สะกดแห่งขุนเขา (2) มนุษย์ขนและสมาชิกใหม่ (1) มวล (1) มองโลกในแง่ดี (1) มาม่าหมดอายุ (1) มารในนิมิต (1) มีกลิ่นปาก (1) เมี่ยวซ่าน (25) แม่ (1) ไม่ได้เป็นเว็บมาสเตอร์ (1) ยาที่ควรกินคู่กัน (1) ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน (1) ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง (1) ยืน (1) โยเกิร์ต (1) โยเกิร์ตทำเอง (1) รถหาย (1) รวมชื่อแบรนด์ (1) รองเท้า (1) รักคือ (1) รักษา (2) รัชดา17 (1) รับจ้าง (1) รับทำภาพถ่ายเป็นภาพวาดการ์ตูน (1) รับฝากซื้อวิตามินไอเฮิร์ป iherb (1) รับสกรีนเสื้อ (1) รับสั่งซื้อวิตามินอเมริกา (1) ราชปรารภ (2) ร่ำรวย (1) เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม (1) เริ่มศึกษาพระธรรม (1) เรือ (1) เรื่องของกลิ่นปาก (1) เรื่องย่อละคร (1) เรื่องเล่าสาวดอย (26) โรคตับจากสุรา (1) ลดน้ำหนัก (1) ลดอ้วน (1) ลมจ๋า - โจแฟ็กซ์ (1) ลอยกระทงออนไลน์ (1) ลักษณะของดาวจันทร์ (1) ลิงค์เว็บ (1) ลุงแจวเรือจ้าง (1) เลข 1-100 (1) เลื่อมพรายลายรัก (1) และแดนนิรวาณ(นิพพาน) (1) วัด (3) วัดนาป่าพง (1) วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (1) วันดี (1) วันนี้เก่งจัง (1) วันมาฆบูชา (1) วันสำคัญ (1) วิตามินอเมริกา (1) วิตามินไอเฮิร์ป (1) วิธีติดโค้ด adsense (1) วิธีแต่งหน้า (1) วิธีทาครีม (1) วิธีปลูกองุ่น (1) วิธีเป่าผมให้แห้ง (1) วิธีเลี้ยงบัวหิมะ (1) เว็บมาสเตอร์ (2) แว่นตา (1) ศรีริต้า เจนเซ่น (1) สงกรานต์ (1) ส่งเว็บเข้าประกวดไม่ทัน (1) สถานที่ (1) สมัครสมาชิกขายภาพ (1) สอนทำโฮมเพจ (2) สัพปีตีโย (1) สัมมาทิฐิ (1) สาวดอย (3) สาเหตุ (1) สิว (1) สีทาบ้าน (1) สีที่ช่วยเพิ่มพลังของโชคลาภเงินทอง (1) สี่พยัคฆ์ร้าย (1) สืบค้นข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ (1) สุขภาพ (7) สูตรขนม (1) สูตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (1) สูตรทำขนมไมตรี (1) สู่ยอดเขา พบเทพชี้ทาง (1) เสธ.แดงลาโลกแล้ว (1) เสียงปืน (3) เสียงปืนดังอีกแล้ว (1) เสียใจ (1) เสื้อแดง (3) เสื้อผ้า (1) เสื้อเหลือง (1) หน้าแห้งลอก (1) หน้าแห้งลอกเป็นขุย (1) หนุ่มนักเรียนนอก (1) หลีกเลี่ยง (1) หารายได้จาก google adsense (1) ให้ ปลดออกไปเป็นสามัญชน (1) อกุศลกรรม (1) อพยพ (1) อยากขายไอศกรีมเนสท์เล่ (1) ออกกำลังกาย (3) ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด (1) ออกเดินทางและอันตราย (1) อัดเสียงไว้ (1) อั๋น วิทยา (1) อาหาร (3) อาหารที่ไม่ควรทานร่วมกัน (1) อาหารฤทธิ์เย็น (1) อาหาร ฤทธิ์ร้อน (1) โฮมเมดโยเกิร์ต (1) a (1) An (1) BB (1) BBcream (1) Coffee (1) cosmetic (1) domainForSale (1) favicon (1) FW mail (1) google adsense (2) ico (1) icon (1) iherb (1) iherb.com (1) iherb vitamin (1) iWiSoft Flash SWF Downloader (1) jofax (1) jumMenu (1) KAครีม (1) load flash (1) MV (2) nestle (1) ourking.in.th (1) Qr Code (1) The (1) vitamin (1) vitamin USA (1) wishscreen (1) word (1)