29/4/53

อ่านชื่อแบรนด์

Harley Davidson

อ่านว่า ฮาร์
-ลี่ย์-เด-วิด-สัน

คนไทยอ่าน
ฮา ร์เล่ย์ คนอเมริกาอ่าน ฮาร์ลี่ย์ ครับ


Mercedes Benz

อ่านว่า เมอร์
-ซิ-ดีส์-เบนซ์

บ้านเราจะเรียกกันติดปากว่า
รถ เบนซ์ กันทั่วบ้านทั่วเมือง
แต่นอกบ้านเรา เขามักจะเรียกรถยี่ห้อนี้ว่า
เมอร์ซิดีส์ กันมากกว่า


Louis Vuitton

อ่านว่า ลุย
-วิต-ตอง

คำว่า
Louis ไม่ ต้องมี ส์ นะครับ หลุยไปเลยครับ หลุย ไม่ต้องหลุยส์


Hermes

อ่านว่า แอร์
-เมส

กระเป๋าใบละเป็นแสน แบรนด์นี้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สุดยอดของกระเป๋า
(แอร์เมสในเทพนิยายกรีก เป็นเทพเมสเซนเจอร์ครับ
ถ้าในชื่อแบบโรมัน เราจะรู้จักกันในชื่อว่า
เมอคิว รี่ ครับ)


Dolce & Gabbana

อ่านว่า ดอล
-เช่-แอนด์-แก๊บ -บา-น่า



BVLGARI

อ่านว่า บูล
-แก-รี่



Cartier

อ่านว่า การ์
-ติ-เย่ร์



Comme des Garcons

อ่านว่า กอม
-เด-กา-ซอง



Longines

อ่านว่า ลอน
-จิน



Piaget

อ่านว่า เปีย
-เจ้



FAUCHON

อ่านว่า ฟู
-ชง

ร้านอาหารกึ่งร้านน้ำชาสุดหรูแห่งกรุงปารีส โด่งดังเรื่องของหวานและชามาก
ร้านฟูชงที่ญี่ปุ่นก็ดังนะครับ เป็นแบรนด์ชาฝรั่งที่ได้รับความนิยมมากทีเดียว
ใครที่บินกับสายการบิน
Singapore airlines ซึ่งมีต้นทางจากประเทศญี่ปุ่น
จะมีของหวานเสิร์ฟเป็นไอศกรีมถ้วยของ
FAUCHON ขอบอกว่า อร่อยเหาะ!!!
(อนึ่ง, ใครนึกภาพร้านนี้ไม่ออก ลองคิดซะว่าถ้าเป็นเมืองไทยก็คงประมาณ
greyhound café น่ะครับ ... จะเป็นร้านอาการที่บูติกๆ หรูๆนิดนึง ประมาณนั้น
ถ้าที่อังกฤษ ที่ดังๆก็ร้าน
Fortnum & Mason ที่คุ้กกี้ใบชาอร่อยโคตรๆเช่นกัน
ถ้าเป็นที่อเมริกา ก็น่าจะพอๆกับร้าน
Dean & DeLuca ครับ)


IKEA

อ่านว่า อิ
-เกีย

แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสัญชาติสวีดิชครับ
แบรนด์นี้ผมชอบมากกกกก แต่ยังไม่เข้ามาเมืองไทยซะทีนึง
นี่ก็ได้ข่าวว่าจะเข้าไทยเร็วๆนี้แล้ว หวังว่าเข้ามาแล้วจะขายไม่แพงนะครับ
แบรนด์นี้หลายคนชอบอ่านว่า
ไอเกีย เหมือนที่อ่าน ไอ พอด ครับ
แต่คอนเฟิร์มชัดเจนว่า ที่ถูกต้องต้องอ่านว่า
อีเกีย นะครับ
(ใครไปสิงคโปร์ ขอแนะนำให้ลองแวะไปอีเกียนะครับ อลังการมากๆ
มีขายทุกอย่างตั้งแต่อาหาร แผ่นรองเม้าส์ ยันตู้เสื้อผ้า...)

ชื่อที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นภาษาอิตาเลี่ยนและฝรั่งเศสครับ
แต่อีกภาษานึงที่อ่านยากชิบหายเช่นเดียวกันคือ ภาษาเยอรมัน


PORSCHE

อ่านว่า พอช
-ชึ่

...รถสปอร์ตยอดนิยมจากเยอรมันที่หนุ่มๆใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ
มันไม่ได้ออกเสียงว่า พอช
-เช่ ซะทีเดียวครับ มันจะออก ชึ่ๆ ครึ่งพยางค์นิดนึง
แต่ยังไงก็ไม่ได้ออกเสียงพยางค์เดียวว่า
พอช แน่ๆละครับ

หรือแม้แต่แบรนด์เอเชีย บางอันแม่งก็ออกเสียงงงๆนะครับ


ASUS

อ่านว่า อา
-ซุส

แบรนด์คอมพิวเตอร์สัญชาติไต้หวันเจ้านี้อ่านว่า
อา-ซุส จริงๆครับ
หลังจากที่คนไทยค่อนประเทศเคยอ่านว่า
เอ-ซัส กันมาพักใหญ่



ขอขอบพระคุณ : http://bongtao.exteen.com/20081216/entry

เข้าไปอ่านแบบเต็มๆ ได้เลยค่ะ อิอิ

28/4/53

พระราชประวัติในหลวง

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


พระราชประวัติในหลวง

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 จนถึงปัจจุบัน ทรงพระสถานะเป็นประมุขแห่งรัฐตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

พระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า "สมเด็จพระภัทรมหาราช" ซึ่งมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่ง" ต่อมาได้มีการถวายพระราชสมัญญาใหม่ว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช" เมื่อ พ.ศ. 2530 และ "พระภูมิพลมหาราช" อนุโลมตามธรรมเนียมเช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ที่ทรงได้รับพระราชสมัญญาว่า "พระปิยมหาราช" อนึ่ง ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกพระองค์ว่า "ในหลวง" คำดังกล่าวคาดว่าย่อมาจาก "ใน (พระบรมมหาราชวัง) หลวง" บ้างก็ว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "นายหลวง" ซึ่งแปลว่าเจ้านายผู้เป็นใหญ่

ทั้งนี้ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระชนมชีพอยู่และทรงอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดใน โลก และเสวยราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วยเช่นกัน


ความหมายของพระนาม

ปรมินทร - มาจากการสนธิคำระหว่าง "ปรม (ป.,ส. : อย่างยิ่ง, ที่สุด) + อินฺทฺร (ส. , ป. อินฺท : ผู้เป็นใหญ่) " หมายความว่า "ผู้เป็นใหญ่ที่สุด" หรือ "ผู้เป็นใหญ่อย่างยิ่ง"
ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน"
อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "ผู้มีอำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"


พระราชสมภพ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชสมภพในราชสกุลมหิดล อันเป็นสายหนึ่งในพระบรมราชจักรีวงศ์ ณ โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น (Mount Auburn) เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น 12 ค่ำ ปีเถาะ นพศก จุลศักราช 1289 ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 เหตุที่มีพระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนีกำลังทรงศึกษาวิชาการอยู่ที่นั่น

ทั้งนี้ ใกล้สถานที่พระบรมราชสมภพ มีจัตุรัสแห่งหนึ่งซึ่งนายกเทศมนตรีเมืองเคมบริดจ์ขอพระราชทานพระนามว่า “จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช” (King Bhumibol Adulyadej Square) เพื่อเป็นเกียรติแก่เมืองเคมบริดจ์และโรงพยาบาลอันเป็นที่พระราชสมภพ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จไปทรงรับมอบการอุทิศจัตุรัสแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดชเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2533 ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเปิดผ้าแพรคลุมป้ายแผ่นจารึกพระราชประวัติ ณ ที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2535[3]

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นพระโอรสองค์ที่สามในสมเด็จ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในกาลต่อมา) และหม่อมสังวาล ตะละภัฎ (ชูกระมล) (สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในกาลต่อมา) ทรงมีพระนามขณะนั้นว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช ทรงมีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[4][5]

พระนาม "ภูมิพลอดุลเดช" นั้น พระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ซึ่งในระยะแรกสะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกดตราบปัจจุบัน [4][6]

ทั้งนี้ เดิมที ด้วยเหตุที่ได้รับตัวโรมันว่า "Bhumibala" สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจึงทรงเข้าพระทัยว่า ได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล" ต่อมาจึงเปลี่ยนการสะกดเป็น "Bhumibol"[4]

เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยม มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา


การศึกษา

พ.ศ. 2477 เมื่อเจริญพระชนมายุได้สี่พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี จนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนี พระเชษฐภคินี และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ "โรงเรียนแห่งใหม่ของซืออีสโรมองด์" (ฝ. École Nouvelle de la Suisse Romande, เอกอล นูแวล เดอ ลา ซืออีส โรมองด์) เมืองแชลลี-ซูร์-โลซาน ฝ. Chailly-sur-Lausanne)

พ.ศ. 2477 เมื่อพระองค์เจ้าอานันทมหิดล พระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี ก็ทรงได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น "สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุยเดช" เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2478

เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2481 ได้โดยเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จนิวัตประเทศไทย เป็นเวลา 2 เดือน โดยประทับที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต จากนั้นเสด็จกลับไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์จนถึงปี พ.ศ. 2488 ทรงรับประกาศนียบัตรทางอักษรศาสตร์ จากโรงเรียนยิมนาส คลาซีค กังโตนาล แล้วทรงเข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยโลซาน แผนกวิทยาศาสตร์ โดยเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นครั้งที่สอง ประทับ ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง


เสด็จขึ้นครองราชย์

วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน โดยต้องพระแสงปืนที่พระกระหม่อม ณ พระที่นั่งบรมพิมาน[8] สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ได้ตัดสินพระทัยรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ สืบราชสันตติวงศ์ในวันเดียวกันนั้น แต่เนื่องจากยังมีพระราชกิจด้านการศึกษา จึงทรงอำลาประชาชนชาวไทย เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิม แต่เปลี่ยนสาขาจากวิทยาศาสตร์ ไปเป็นสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ซึ่งจำเป็นสำหรับตำแหน่งประมุขของประเทศ

การตัดสินพระทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เพียงแต่ทำให้ประเทศไทยและคนไทยคลายความโศกเศร้า จากการที่ต้องเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเท่านั้น แต่ยังทำให้ประเทศไทยได้พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ที่ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ ที่จะอุทิศพระวรกายและพระราชหฤทัยเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน[9]

เดิมทีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งพระราชหฤทัยว่า จะทรงครองราชสมบัติเฉพาะในช่วงการจัดงานพระบรมศพของพระบรมเชษฐาเท่านั้น เพราะยังทรงพระเยาว์และไม่เคยเตรียมพระองค์ในการเป็นพระมหากษัตริย์มาก่อน เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับรถพระที่นั่งเ สด็จพระราชดำเนินไปยังสนามบินดอนเมือง เพื่อทรงศึกษาเพิ่มเติมที่สวิตเซอร์แลนด์ ทรงได้ยินเสียงราษฎรคนหนึ่งตะโกนลั่นว่า "ในหลวง อย่าทิ้งประชาชน" ทำให้ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นในพระราชหฤทัยว่า "ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้"[10] เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจว่าต่อมาอีกประมาณ 20 ปี ขณะทรงเยี่ยมราษฎรในต่างจังหวัด ทรงได้พบชายผู้ร้องตะโกนคนนั้น ชายผู้นั้นกราบบังคมทูลว่า ที่เขาร้องตะโกนออกไปเช่นนั้นเพราะรู้สึกว้าเหว่และใจหาย เขาเห็นพระพักตร์เศร้ามาก จึงร้องไปเหมือนคนบ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตอบว่า "นั่นแหละ ทำให้เรานึกถึงหน้าที่ จึงต้องกลับมา"


ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์

หลังจากที่จบการศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์เสด็จไปเยือนกรุงปารีส ทรงพบกับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่งเป็นลูกสาวของเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศส เป็นครั้งแรก[12] โดยที่ตอนนั้นทั้งสองพระองค์มีพระชนมายุเพียง 21 และ 15 พรรษาตามลำดับ

ในระหว่างประทับในต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2491 ขณะที่พระองค์ทรงขับรถเฟียส ทอปอลิโน จากเจนีวาไปยังโลซาน ก็ได้ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้เข้ารักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลในเมืองโลซาน โดย ม.ร.ว. สิริกิติ์ ได้มีโอกาสเยี่ยมเป็นประจำจนหายประชวร นับตั้งแต่นั้นมาทั้งสองพระองค์ก็มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด


พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 เสด็จพระราชดำเนินนิวัตพระนครในปีถัดมา โดยประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ต่อมาวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในวังสระปทุม ซึ่งในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ กิติยากร ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์


พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบ อย่างโบราณราชประเพณีขึ้น ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เฉลิมพระปรมาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" และในโอกาสนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี


ทรงผนวช

เมื่อ พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออกผนวชเป็นเวลา 15 วัน ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมณนามว่า ภูมิพโลภิกขุ และเสด็จฯ ไปประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างที่ผนวช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ในปีเดียว


พระราชบุตร

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถมีพระราชโอรสและพระราชธิดาด้วยกันสี่พระองค์ตามลำดับดังต่อ ไปนี้

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี (พระนามเดิม: สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี; ประสูติ: 5 เมษายน 2494, สถานพยาบาลมงต์ชัวซี เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้ได้ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ เพื่อทรงสมรสกับนายปีเตอร์ เจนเซ่น ชาวอเมริกัน โดยมีพระโอรสหนึ่งองค์และพระธิดาสององค์ ทั้งนี้ คำว่า "ทูลกระหม่อมหญิง" เป็นคำเรียกพระราชวงศ์ที่มีพระชนนีเป็นสมเด็จพระบรมราชินี


สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร (พระนามเดิม: สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรงสุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร; ประสูติ: 28 กรกฎาคม 2495, พระที่นั่งอัมพรสถาน) ทรงอภิเษกสมรสกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นางสุจาริณี วิวัชรวงศ์ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ ตามลำดับ โดยมีพระโอรสหนึ่งพระองค์และสี่องค์ กับพระธิดาสองพระองค์


สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี (พระนามเดิม: สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์; ประสูติ: 2 เมษายน 2498, พระที่นั่งอัมพรสถาน)


สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี (ประสูติ: 4 กรกฎาคม 2500, พระที่นั่งอัมพรสถาน) ทรงอภิเษกสมรสกับนาวาอากาศเอก วีระยุทธ ดิษยะศริน โดยมีพระธิดาสองพระองค์
ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 คุณพุ่ม เจนเซ่น พระโอรสของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสียชีวิตจากคลื่นสึนามิ ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547


ขอขอบพระคุณ เนื้อหาจาก : http://www.hawebthai.com/articles/article-441.html

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

http://www.kanchanapisek.or.th/biography/hmk.th.html

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A

27/4/53

รับทำภาพถ่ายให้เป็นภาพการ์ตูน หรือ ภาพการ์ตูน

รับทำภาพถ่ายให้เป็นภาพวาด หรือ ภาพการ์ตูนจ้า
ราคากันเองๆจ้า ^^

ดูตัวอย่างได้เลยนะคร้า คลิกขยายได้นะคะ

ภาพถ่ายต้นฉบับ



ภาพถ่าย แปลงเป็น ภาพวาด ขาวดำ



ภาพถ่าย แปลงเป็น ภาพวาด ลงสีเรียบร้อย



ภาพถ่าย แปลงเป็น ภาพการ์ตูน นิดๆ อิอิ




26/4/53

Google Adsense ถูกตัดบัญชี

มีทั้งความไม่เข้าใจ และสงสัย
สืบเื่นื่องจาก ดอยได้สมัคร google adsense อยู่ๆก็โดนแบนไม่มีสาเหตุ
อีเมล์ก็ไม่ส่งมา ว่าแบนเพราะอะไร

ทั้งๆที่ ไม่ได้ผิดกฏอะไรเลย ..-_-.. โดนมา 2 ครั้ง แล้ว แงแงแงแงแงแง
(ครั้งแรกพอรู้ ว่ามีผู้หวังดี ช่วยคลิกๆๆๆ)

อาทิตย์ก่อนเปิดดูอยู่เลย ได้แค่ 2 คลิก(ทำมาตั้งหลายเดือน)
แล้ววันนี้เปิดดู Account Disabled ซะงั้นอะคะ

ไม่แน่ใจแล้ว ว่าทำ google adsense จะได้ค่าตอบแทนจิงๆ

ดอย ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรแล้ว ...-_-...


Account Disabled
Your AdSense account for this login is currently disabled. We recommend checking your email inboxes for any messages we may have sent you regarding your account status. Sometimes our messages can be caught by email filters, so please be sure to check the Bulk/Spam folders of your email accounts as well.

If your account was disabled for invalid click activity, please visit our Disabled Account FAQ for more information.

Return to AdSense home.

22/4/53

คำปั๋นปอนปี๋ใหม่

คำปั๋นปอนปี๋ใหม่ (คำอวยพรปีใหม่) ของน่านทูเดย์ นะคะ
ดอยเอามาอวยพรช้าไปหน่อย อิอิ

เอวังโหนตุ ดีและอัจจะในวันนี้ก็หากเป๋นวันดี
ดิถีอันวิเศษ เหตุว่าอติกั๋นโต๋
สังขารปี๋เก่าก็ข้ามล่วงป๊นไปแล้ว
ปี๋ใหม่แก้วยอดพญาวัน ก็มาจุจอดรอดเถิง

เติงในก๋าละวันนี้ยามนี้ หมู่สูเจ้าตั้งหลายก็บ่ละเสียยังฮีต
อดีตป๋าเวณีอันเป๋นมาแต่ป๋างก่
อน
เจ้าตังหลายก็บ่ผ่อนเสียยังศรั
ทธา
จิ่งได้น้อมนำมายังสุกั
นธาโทตะกะ
ทานะวัตถุตานทั้งหลายฝูงนี้
มา ถวายเป๋นตาน

เพื่อว่าจักมาขอขมาโทสะนะโทษ ผู้ข้าก็โผดหื้อเป๋นอโหสิกรรม
แม้นว่าเจ้าตั้งหลายได้กระทำเป๋นตางดีตางชอบ จุ่งหื้อประกอบไปด้วย
ปณิทา
จุ่งหื้อมีอายุฑีฆายืนยิ่ง โรคภัยทุกสิ่งหนีไกล๋ หื้อมีวรรณะใสสดชื่น
เป๋นที่รักและพอใจของผู้อื่นที่
เขาหัน

หื้อมีความสุขสันต์ทุกค่ำเจ๊า ก๋าผิก๋าสุข เจ๋ตะผิก๋าสุข พร่ำพร้อมบริบูรณ์
หื้อมีกำลังหนุนเตี่ยมแถ้ง


อย่าหื้อได้เหี่ยวแห้งจุประก๋าร หื้อสมดั่งกำปอนว่าไว้ สมดั่งนึกได้จุประก๋าร
เตี่ยงแต๊ดีหลี…


สัพปีตีโย วิวัชสันตุ สัพพะโรโค วินัสสันตุ มาเต๋ ภะวะตวันตราโย
สุขีฑีฆายุโก ภะวะอภิวาทะนะ สีลิสสะนิจจั๋ง วุฑฒาปะจ๋ายีโน จัตตาโร ธรรมา
วัชทันติ อายุวัณโณ สุขัง พลัง…..

ขอขอบพระคุณ : น่านทูเดย์ดอตคอม

21/4/53

ประโยชน์ของกาแฟ


1. ป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้วว่า กาแฟมีประโยชน์ในการป้องกัน โรคดังกล่าว

2. ป้องกันโรคหอบ โรคนี้ คือ อาการ ภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปเมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้น จะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที และคาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ

3. ลดการเกิดโรคตับจากสุรา ตามที่นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่า กาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับ แต่ยังต้องวิจัยต่อไปว่า สารใดที่มีประโยชน์ดังกล่าว และมีผลต่อสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดโรคตับแข็งหรือไม่ นอกจากแอลกอฮอล์

4. ป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันโรค

5. ขับไล่ความชรา ออกซิเจนเป็นสารที่ร่างกายต้องการมากก็จริง แต่ถ้ามีออกซิเจนมากไป ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้น จะทำให้ออกไซด์แตกตัว ลดการเกิดมะเร็งได้ กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกาย

6. กาแฟลดอัตราคอเลส-เตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมีนิโคติน แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดแข็งตัว

7. ละลายไขมัน กาแฟที่ทานหลังอิ่มอาหาร ช่วยให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงานทดแทนจึงลดความอ้วนได้

8. กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ตามผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ จะมีไขมันชนิด (HDL) เพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไป ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว

9. แก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีนที่ขยายหลอดเลือด ระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด และยังช่วยขับปัสสาวะ ละลายไขมันในเส้นเลือด และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากเมาสุราได้

10. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง มีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาว่า ความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น นั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น

11. ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัว หากได้ดื่ม กาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จ คาเฟอีน ในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนเพิ่มขึ้น ไขมันถูกเผาผลาญ

12.กาแฟมีสารต้านอนุมูลิอสระ
กาแฟยังมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มโพลีฟีนอลเช่นเดียวกับผักผลไม้ สารตัวนี้มีชื่อว่า “กรดคลอโรจีนิก” เป็นสาเหตุนึงทำให้คนเราเหี่ยวช้าเมื่อทานพอเหมาะในแต่ละวันค่ะ


ขอขอบพระคุณ : http://blogger.sanook.com/happyland/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1/

ธรรมะสำหรับคนเกิดวันจันทร์



ลักษณะของดาวจันทร์ ตามตำราของโหราศาสตร์นั้น บ่งบอก ถึงความอ่อนหวาน อ่อนโยน น่ารัก มีเสน่ห์ ขี้สงสารคน และเป็นคนเกิดความศรัทธา ในสิ่งต่างๆได้ง่าย คนที่มีศรัทธาง่าย อย่างคนที่เกิดวันจันทร์นี้ ถ้า หากจะเจริญกรรมฐาน ก็ใคร่ขอแนะนำให้เจริญกรรมฐาน หมวดอนุสติ คือการระลึกถึงคุณ ของสิ่งที่ดีงามเช่น

  1. พุทธานุสติ คือการนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า
  2. ธัมมานุสติ คือนึกถึงคุณของพระธรรม
  3. สังฆานุสติ คือการนึกถึงคุณของพระอริยสงฆ์
  4. สีลานุสติ คือการนึกถึงคุณของศีล ที่ตนได้รักษา
  5. จาคานุสติ คือการนึกถึงคุณ แห่งทานบริจาค ที่ตัวได้กระทำเอาไว้
  6. เทวตานุสติ คือการนึกถึงคุณธรรม ที่ทำให้เป็นเทวดา

อนุสติ ทั้ง ๖ ประการนี่แหละ คือกรรมฐานที่เหมาะ สำหรับคนวันจันทร์ ซึ่งเป็นคนที่มากด้วยศรัทธา คือ มากด้วยความเชื่อ จะพึงเจริญ เหตุที่ให้ใช้กรรมฐานทั้ง ๖ ก็เพราะว่า ความเชื่อ เป็นเรื่องของคุณธรรม แต่ใน ขณะเดียวกัน ก็ต้องประคองความเชื่อนั้น ให้อยู่ในทางที่ถูกต้องด้วย ไม่เช่นนั้น ความเชื่อ ก็อาจจะเป็นไปใน ทางที่ลุ่มหลงงมงายได้ง่ายๆ ในเมื่อเป็นคนที่มีใจ น้อมไปทางด้านศรัทธาอยู่แล้ว กรรมฐานที่ใช้ ก็จึงควรเป็น กรรมฐาน ที่จะช่วยพยุงความเชื่อ ให้เป็นไปในทางที่ถูกต้องและดีงาม… ซึ่งไม่มีอะไรที่ดีกว่า อนุสติทั้ง ๖ ดังกล่าวแล้ว ทีนี้มาพูดถึงวิธีปฏิบัติ ในกรรมฐานทั้ง ๖ กันบ้าง

กรรมฐานข้อแรก คือ พุทธานุสติ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า มีคุณความดีอย่างไร ที่น่า ประทับใจ ให้เรานึกดู

ข้อ แรกก็คือ พระองค์ไม่ติดในยศฐาบรรดาศักดิ์ และสิ่งสะดวกสบาย เหมือนที่คนทั้งหลายแสวงหากัน แต่ กลับเห็นความสำคัญของจิตใจ ยอมสละความสุขทางวัตถุ มาปฏิบัติธรรมเพื่อหาความสุขทางใจแทน จนได้ตรัสรู้และหลังจากที่ได้ตรัสรู้แล้ว ก็ทรงใช้เวลาตลอดพระชนม์ชีพในการทำประโยชน์ โดยไม่มีวันหยุด ไม่มีเงินเดือน และไม่มีโบนัสสวัสดิการใดๆทั้งสิ้น การทำงาน บางครั้งก็เสี่ยง ต่อภัยตราย เช่น ในคราวไปโปรดโจรองคุลิมาล เป็นต้น ประกันชีวิตก็ไม่มี แถมไปไหน ก็ไม่มีรถมาคอยรับส่งอีกต่างหาก แต่พระองค์ก็ทรงทำหน้าที่ โดยไม่ บกพร่อง ทำเกือบตลอด 24 ชั่วโมง เรียกว่า เป็นนักทำงานชั้นยอดก็ว่าได้ พระองค์จะทรงตื่น แต่เช้ามืด… เมื่อ ตื่นขึ้นมาแล้ว ก็จะทรงเข้าสมาบัติ ตรวจดูสัตว์โลก ว่าใครจะมีวาสนาบารมี ควรแก่การ ที่จะเสด็จไปโปรด พอตอนเช้า ก็เสด็จออกไปบิณฑบาต โปรดสัตว์โลก ผู้ต้องการทำบุญ พอตกเย็น ก็ทรงแสดงธรรม แก่ประชาชนย่ำค่ำ ทรงให้โอวาทแก่ภิกษุสงฆ์ เที่ยงคืน ต้องตอบคำถาม ให้แก่เทวดา ที่มาถามปัญหา… กว่าจะเสร็จ ก็คงไม่ ต่ำกว่าตี ๒ หลังจากนั้น ก็ทรงบรรทม พอตี ๔ – ตี ๕ ทรงตื่น เข้าสมาบัติ ตรวจดูสัตว์โลกอีกแล้ว

ดูเอาเถอะ พระองค์ทำงาน แทบไม่มีเวลาพักที เดียว ทำอย่างนี้ ตลอด ๔๕ ปี ที่ทรงพระชนม์อยู่…. ใครจะ ทำได้ อย่างพระองค์ ด้วยคุณความดีดังกล่าวนี่แหละ เราชาวพุทธ จึงได้กราบพระองค์ อย่างสนิทใจ แม้พระองค์ จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ไปถึงสองพันกว่าปีแล้วก็ตาม… และนี่ก็คือ คุณงามความดีของพระพุทธเจ้า ที่เราควรจะระลึกถึง เพื่อยังจิตใจเราให้สงบ และเกิดกำลังใจ

ที นี้มาถึงกรรมฐานข้อที่ ๒ ซึ่งเหมาะกับคนวันจันทร์ กรรมฐานที่ว่านั้น ก็คือ ธัมมานุสติ ได้แก่ การระลึกถึง คุณของพระธรรมคำสอนพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็คล้ายๆทำนบกั้นน้ำ คือเป็นสิ่งกั้นคนเรา ไม่ให้ตกไปสู่โลกที่ชั่ว เช่นโลกของอบายมุขต่างๆ คนมีธรรมะรักษาใจ และสนใจที่จะ ปฏิบัติธรรมทุกคน ไม่มีใครที่จะตกไปสู่ทางที่ชั่วได้เลย เนื่องจากธรรมะรักษาไว้นั่นเอง… และนี่ก็คือคุณงาม ความดี ของพระธรรมคำสอน ซึ่งเมื่อนึกแล้ว ก็จะช่วยทำให้ใจสงบได้อีกทางหนึ่ง จะพูดถึงกรรมฐาน ของคน วันจันทร์ ต่ออีกสักข้อ คงไม่ทันแล้ว เพราะเนื่องจากหน้ากระดาษหมดพอดี เอาไว้ตอนหน้าจะนำเรื่องกรรมฐาน ที่เหมาะสำหรับคนมาจันทร์ ในข้อที่ ๔ มาเสนอกับท่านผู้สนใจต่อไป ขอได้โปรดติดตาม

กรรมฐานข้อที่ ๓ ซึ่งคนที่เกิดในวันจันทร์ ควรจะเจริญ นั่นก็คือ สังฆานุสติ

“สังฆานุสติ” คือการนึกถึงคุณของพระอริยสงฆ์
พระอริยสงฆ์ มีคุณความดีอย่างไรบ้างล่ะ ? ก็มีคุณความดีอยู่ ๔ ข้อ คือ

  1. สุปฏิปันโน เป็นผู้ปฏิบัติดี คือทำแต่ความดี พูดแต่ถ้อยคำที่ดี และคิดแต่ในทางที่ดี ไม่ทำร้ายใคร ไม่พูดจา ใส่ร้ายใคร และไม่คิดร้ายต่อใคร
  2. อุชุปฏิปันโน เป็นผู้ปฏิบัติตรง คือตรงต่อหน้าที่ และตรงต่อเพศภาวะ ไม่ประพฤติ ตน เป็นคนลวงโลก
  3. ญายปฏิปันโน เป็นผู้ปฏิบัติตน เพื่อมุ่งออกจากทุกข์ และมุ่งทำจิตให้บริสุทธิ์ เป็นที่ตั้ง… ไม่ได้ปฏิบัติ เพื่อมุ่งลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่ประการใด
  4. สามีจิปฏิปันโน เป็นผู้ปฏิบัติตนสมควรแก่การกราบไหว้ กล่าวคือ มีจิตใจในระดับสูง ที่ว่า มีจิตใจอยู่ใน ระดับสูงนั้น ก็คือ มีจิตใจสูงกว่าชาวบ้าน ชาวบ้านอยู่กันด้วยความโลภ คิดแต่จะกอบโกย ให้ได้มากๆ. แต่พระ ท่านกลับอยู่ อย่างเสียสละ และเป็นผู้ให้ชาวบ้านอยู่กันด้วยความโกรธ มีอะไรไม่พอใจขึ้นมา ก็พร้อมจะห้ำหั่น 1ประหัตประหาร กันได้ทันที…. แต่พระท่านกลับอยู่ด้วยเมตตา และพร้อมที่จะให้อภัยชาวบ้านอยู่กันด้วยความหลง ไอ้นั่นก็ของเรา ไอ้นี่ก็ของเรา…. แต่พระท่านกลับอยู่ ด้วยการปล่อยวาง สมบัติพัสถานทุกอย่าง สักแต่ว่าเป็นปัจจัย เครื่องอาศัยเท่านั้น การระลึก นึกถึงคุณความดี ของพระอริยสงฆ์ โดยนัยนี้แหละ ที่ท่านเรียกว่า เจริญสังฆานุสติ ซึ่งเป็นกรรมฐานข้อหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับคนวันจันทร์จะเจริญ

กรรมฐานข้อ ๔ ที่เหมาะกับจริตอัธยาศัยของคนที่เกิดวันจันทร์ นั่นก็คือ สีลานุสติ

สีลานุสติ ก็คือการระลึก นึกถึงความบริสุทธิ์แห่งศีล ที่ตนได้รักษาคนใดก็ตาม ที่ได้สมาทานศีลจากพระ และพยายามตั้งใจรักษาศีล ให้ บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ให้ด่างพร้อย ย่อมจะได้รับอานิสงส์ ก็คือจะทำให้เกิดความอิ่มอกอิ่มใจทุกครั้ง เมื่อนึกถึงศีลด้วยเหตุนี้ การนึกถึงศีล ที่ตัวเองรักษา ได้อย่างบริสุทธิ์ ก็เป็นวิธี ที่จะช่วยทำให้จิตใจ เกิดความสงบได้ประการ หนึ่ง จึงจัดเป็นหนึ่ง ในบรรดาอารมณ์กรรมฐานและกรรมฐานข้อนี้ ก็เหมาะอย่างยิ่ง ถ้าคนที่เกิดวันจันทร์จะเจริญ

กรรมฐานข้อ ๕ สำหรับคนที่เกิดวันจันทร์ ควรจะเลือกเจริญ นั่นก็คือ จาคานุสติ

จาคานุสติ คืออะไร ?
จา คานุสติ ก็คือ การนึกถึงทานบริจาค ที่เราได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว ว่า “โอหนอ เป็นบุญลาภของเราหนอ ที่ใจเรา ปราศจากความโลภ และความตระหนี่ และได้มีโอกาสสร้างความสุขอันประเสริฐ ให้เกิดขึ้นในใจตนเอง นั่นคือ ความสุข ที่เกิดจากการให้” ทานบริจาคอันใดก็ตาม ที่เราได้บริจาคไว้ดีแล้ว มิใช่จะก่อให้เกิดความสุขใจ เฉพาะ ตอนที่ให้เท่านั้น แม้แต่การให้ จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่เมื่อเรามาระลึกถึงครั้งใด ความสุขใจ ความอิ่มใจ ก็จะเกิดขึ้น ทุกครั้ง ฉะนั้น จึงเป็นเรื่อง ที่ควรจะนึกถึงให้บ่อยๆ

กรรมฐาน ข้อที่ ๖ ซึ่งเป็นข้อสุดท้าย ซึ่งเหมาะกับจริตอัธยาศัย ของคนที่เกิดวันจันทร์ ก็คือ เทวตานุสติเทวตานุสติ ก็คือการระลึก นึกถึงคุณธรรม ที่ทำให้คน เกิดเป็นเทวดา คุณธรรม ที่ว่านั้น ก็คือ

หิริ = ความละอาย ต่อบาป และ
โอตตัปปะ = ความเกรงกลัวต่อบาป

คุณธรรม ทั้ง ๒ ข้อนี้ ถ้าเราพิจารณาแล้ว เห็นว่า มีอยู่พร้อม ในใจ ของเราแล้ว ก็ให้พึงปีติใจเถอะว่า เหล่าเทวดา ไปเกิดในเทวโลก ด้วยคุณธรรมใด คุณธรรมนั้น ก็มีพร้อมอยู่ในใจ ของเราแล้ว ฉะนั้น เทวโลก ย่อมเป็นที่ไป สำหรับเรา อย่างแน่นอน… นี่คือการเจริญเทวตานุสติ และทั้งหมดนี้ ก็คือกรรมฐาน ๖ อย่าง ที่คนเกิดวันจันทร์ ควรจะเจริญ เพื่อเป็นเครื่องเสริมสร้างศรัทธา ซึ่งมีอยู่แล้ว ให้เป็นไป ในทางที่ถูกต้องและดีงามคือในเมื่อจะเชื่อ ก็ควรเชื่อในคุณของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณของพระอริย-สงฆ์ เชื่อในคุณของทาน คุณของศีล ที่มีอยู่ในตน และเชื่อในคุณธรรม ที่ทำคน ให้เป็นเทวดาเพียงเท่านี้ ก็เป็นการเสริมส่งความเชื่อ ให้เป็นไปในทางที่ดีงามแล้ว


ขอขอบพระคุณ : http://www.cpc.rtaf.mi.th/?p=278

8/4/53

ภูเพียงพระธาตุแช่แห้ง

พระบรมธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน วัดพระบรมธาตุแช่แห้งตั้งอยู่ที่บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด กิ่งอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองไปราว 2กม. เส้นทางสายน่าน-แม่จริม สันนิษฐานว่ามีอายุราว 600 ปี พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย องค์พระธาตุมี ีความสูง55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 22.5 เมตร บุด้วยทองเหลืองหมดทั้งองค์ เป็นโบราณสถาน ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา ทุกปีจะมีงานนมัสการพระบรมธาตุแช่แห้ง ระหว่างวันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำเดือน 6 ทางเหนือ ซึ่งจะอยู่ราวปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

พระบรมธาตุแช่แห้ง ปูชนียสถานที่สำคัญของเมืองน่าน มีอายุกว่า 600 ปี ตามพงศาวดาเมืองน่านกล่าวว่า พญาการเมือง โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากเมืองสุโขทัย ระหว่างปี พ.ศ.1891-1901 สถาปัตยกรรมด้านโบสถ์ของวัดพระธาตุแช่แห้ง ที่สำคัญและแสดงให้เห็นถึงแบบอย่างสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม สกุลช่างน่าน

พระบรมธาตุแช่แห้ง เป็นศิลปะการก่อสร้าง ที่มีความวิจิตรงดงาม อีกแห่งหนึ่ง ของภาคเหนือ ที่เป็นศิลปะการ ก่อสร้าง ที่ได้รับอิทธิพล การก่อสร้างมาจากเจดีย์พระธาตุหริภุณไชย โดยมีลักษณะโดยรอบๆ ขององค์พระธาตุคือจะมี ีการบุรอบองค์ด้วยทองจังโก ในส่วนของทางเดิน ขึ้นสู่งองค์พระธาตุนั้น จะเป็นตัวพญานาคหน้าบันเหนือประตูทางเข้า ลักษณะของการปันจะเป็นลายนาคเกี้ยว ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ ช่างฝีมือและของศิลปะของจังหวัดน่านโดยแท้จริง ี่ชาวเมือง ล้านนามีความ เชื่อกันว่า การได้เดินทางไปสักการบูชา กราบไหว้ นมัสการองค์พระธาตุแซ่แห้ง หรือชาวล้านนา จะเรียกกันว่า การชุธาตุ แล้วนั้นจะทำได้รับอานิสงค์อย่างแรงกล้า ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุข ปราศจากโรคภัยต่างๆ มาเบียด เบียน หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เป็นต้น และหากใครที่จะเดินทางได้ นมัสการองค์พระธาตุแซ่แห้งนั้น สามารถเดิน ทางไปได้ทุกวัน ซึ่งจะเปิดให้เข้านมัสการ ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.


ภาพ พระธาตุแช่แห้ง ที่ท่านกำลังเยี่ยมชม ดอยถ่ายเมื่อ วันที่ 19 มีนาคม 2552 นะคะ



ที่มา : http://www.saodoy.com/tour_watphrathatchaehaeng.php

4/4/53

เหตุผลที่ผู้ชายโกหก

เหตุผลที่ผู้ชายโกหก

บ่ายวันหนึ่งระหว่างคนตัดไม้กำลังตัดไม้อยู่ริมน้ำนั้นขวานคู่มือก็หลุดมือ
จมลงน้ำไป คนตัดไม้ก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ริมน้ำ
ทันใดนั้นเองเทวดาก็ลอยขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วถามว่า " มีปัญหาอะไรรึ "
" ขวานผมตกลงไปในน้ำแล้ว และตรงนี้น้ำลึกมาก
ต่อไปผมจะเอาอะไรไปตัดไม้หาเลี้ยงลูกเมียได้หละท่าน "
เทวดาได้ยินดังนั้นก็ดำน้ำลงไปสักพักแล้วขึ้นมาพร้อมกับขวานทองคำ
" เอ้าขวานนี้ใช่ขวานของเจ้าใช่รึไม่ ?" เทวดาถามคนตัดไม้
" ไม่ใช่ครับ "
เทวดาก็ดำน้ำลงไปอีกครั้งกลับขึ้นมากับขวานเงิน
" เอ้าแล้วขวานนี้หละใช่ของเจ้ารึไม่ ?"
" ไม่ใช่ครับขวานของผมทำจากเหล็กมีด้ามไม้เก่าๆ ไม่ใช่ขวานเงิน ขวานทอง "
เทวดาจึงดำลงน้ำไปอีกครั้งแล้วกลับขึ้นมาพร้อมกับขวานเหล็กคู่มือคนตัดไม้
" เอ้าขวานของเจ้า แต่เราเห็นเจ้าเป็นคนดีซื่อสัตย์ไม่โกหก
เราจะให้ขวานเงิน กับขวานทองคำแก่เจ้าไปด้วย
เพื่อตอบแทนในการที่เจ้าเป็นคนดี "
คนตัดไม้จึงรับขวานไว้แล้วกลับบ้านด้วยความสุข

หนึ่งเดือนต่อมา ............

ระหว่างที่คนตัดไม้กำลังเดินเล่นอยู่ริมน้ำพร้อมกับภรรยาของเขาอยู่นั้น
ภรรยาก็ลืนตกน้ำไป คนตัดไม้ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้ริมน้ำ
ทันใดนั้นเทวดาองค์เดิมก็ปรากฏกายออกมาอีกครั้ง
" เอ้าคราวนี้เจ้ามีปัญหาอะไรรึ "
" ภรรยาผมลื่นตกน้ำไปเมื่อกี้นี้ครับ "
ได้ยินดังนั้นเทวดาจึงดำน้ำลงไป
และขึ้นมาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนกันกับเจนิเฟอร์ โลเปซ ตั้งแต่หัวจรดเท้า

" ผู้หญิงคนนี้ใช่ภรรยาเจ้ารึไม่ ?"

" ใช่แล้วครับ " คนตัดไม้ตอบทันที

เทวดาจึงโกรธมาก เพราะเห็นว่าคนตัดไม้โกหก และไม่ซื่อสัตย์เหมือนก่อน
" ขออภัยด้วยครับท่านเทวดา มันเป็นการเข้าใจผิดครับ "
คนตัดไม้รีบชี้แจงทันใด

" ถ้าเกิดผมตอบว่าไม่ใช่ ผมเดาว่าท่านก็คงจะลงไปในน้ำอีกครั้ง
แล้วกลับขึ้นมาพร้อมกับผู้หญิงที่เหมือนกับ แคธรีน ซีต้าโจนส์
และเมื่อผมปฏิเสธอีกท่านก็คงจะดำลงไปอีกครั้งแล้วนำภรรยาผมตัวจริงขึ้นมา
สุดท้ายท่านก็คงจะให้ผู้หญิงอีก 2 คนผมด้วย
เพื่อตอบแทนที่ผมไม่โกหก

แต่ว่า .... ผมเป็นแค่คนตัดไม้จะมีปัญญาอะไรไปหาเงินเลี้ยงเมียพร้อมกัน

3 คนได้หละครับ ผมจึงจำเป็นต้องตอบว่าใช่ตั้งแต่แรก "


.

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อใดที่ผู้ชายโกหก
แสดงว่าชายผู้นั้นจะต้องมีเหตุผลจำเป็นในการโกหก
และมีเจตนาดีอย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่นคนตัดไม้รายนี้.

ขอขอบพระคุณ : http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=2bc21e934b3ca31e&hl=th&table=%2Fguru%2F%3Ftab%3Dw2%26hl%3Dth&clk=wrtpcts3

รวมกลุ่มทั้งหมด

24fair.com (1) 5 พ.ค. (1) 9leather.com (1) กฎแห่งกรรม (1) กรรมชั่ว (2) กรรมฐาน (1) กรรมดี (2) กรรมสัมพันธ์กับตระกูลลู่ (1) กระดาษเหน็บเท้า (1) กระเป๋า (1) กรุ๊ปเลือด (1) กาแฟ (1) กายสดใส (1) การใช้ Articles a an the (1) การตามหาบัวหิมะ (1) การทำสมาธิ (1) การแปลงหน่วย (1) การเผชิญความหนาวเหน็บ (1) การเมือง (1) การรักษาพระเจ้าเมี่ยวจวงและการสละราชสมบัติ (1) การรับบทลงโทษที่หนักขึ้น (1) การเริ่มศึกษาพระธรรม (1) การเลือกผู้รับใช้เบื้องซ้ายขวา (1) การอำลาเพื่อมุ่งสู่ทางธรรม (1) กำเนิดพระธิดาเมี่ยว ซ่าน (1) กำไรของชีวิต (1) กุนเชียงไหม้ (1) กุศลกรรม (1) แก้ปัญหาเหน็บชา (1) ขวาน (1) ข้อคิด (1) ขอให้ทหารปลอดภัย (1) ขายภาพ (1) ขายไอศกรีมเนสท์เล่ทำยังไง (1) ขายไอศครีม (1) ข่าวเงียบจัง (1) ขำๆ (2) เขียนตัวหนังสือกลับด้าน (1) เขียนตัวหนังสือกลับหัว (1) ไข่ พระอาทิตย์ (1) คนทำลายชาติขอให้ตายตกไปตามกรรมที่ได้ทำไว้ (1) คนทำเว็บ (2) ครีมบ้านครีม (1) ครีมมยุรา (1) ครีมยูร่า (1) คลิป (1) ความเชื่อ (1) ความฝัน (1) ความรัก (1) ความสวยความงาม (13) ความหมาย website และ webpage (1) ค่าเงิน (1) คาถาเงินล้าน (1) คาถาแผ่เมตตา (1) คำคมปู่เย็น (1) คำปั๋นปอนปี๋ใหม่ (1) คำอวยพร (1) คำอวยพรปีใหม่ (1) คิดบวก (1) คุณเคยเป็นเหน็บชาไหม (1) คุณทหาร (2) เครื่องสำอาง (3) เคล็ดลับ (1) งานสาวดอย (2) งานเสริม (1) จ.น่าน (1) เจนิเฟอร์ โลเปซ (1) เจ้ากรรมนายเวร (1) เจ้านาย (1) ใจเป็นสุข (1) ฉัตรมงคล (1) ช่อง3 (1) ชอบ (1) ชายตัดต้นไม้ (1) ชื่นชอบ (1) ชื่อ (1) ชุดทดลอง (1) ญี่ปุ่น (1) ดวง (1) ดอย (2) ดารา (1) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (1) ดื่มน้ำ (1) ดื่มน้ำสมุนไพรเวลาไหนดี (1) ดื่มน้ำ-ออกกำลังกาย ลดอ้วน (1) ดูแลผิวแต่ละสัปดาห์ (1) ดูอย่างไรเครื่องสำอางค์หมดอายุ (1) เด็กซนทำเรื่องและการบรรลุธรรม (1) เดิน (1) โดยสาวดอย (1) ไดร์ผม (1) ตลก (1) ต่อมน้ำเหลือง (1) ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชค (1) ต้านอนุมูลิอสระ (1) ตำนานเจ้าแม่กวนอิม (33) ตำรวจ (1) ตุนของ (1) ตู้เนสท์เล่ (1) แต่งหน้าสวยๆ (1) ถูกแบน (1) แถบสีหลอดยาสีฟัน (1) ทรงพระเจริญ (1) ทหาร (1) ท่องเที่ยว (1) ท่องนรกภูมิ เปรตภูมิ เทวภูมิ (1) ท้องผูก (1) ท่องพรหมโลก (1) ทำความดี (1) ทำดีเป็นสิ่งที่ดี (1) ทำเพื่อเธอนะ (1) ทำเว็บไซต์ (3) ทำเว็บไซต์เพื่อในหลวง (1) เทวดา (1) เท้า (1) ธรรมะ (9) ธรรมะสำหรับคนเกิดวันจันทร์ (1) นวดหน้า (1) นอน (1) นักพรตเฒ่าลึกลับ (1) นั่ง (1) นั่งหน้ามัน (1) น้ำขิง (1) น้ำสมุนไพร (1) น้ำหนัก (1) นิคกี้9นิ้ว (1) นูสกิน (1) เนย ซินญอริต้า (1) เนื้อร้อง (2) แนะำนำตัว (1) ในหลวง (3) บททดสอบก่อนออกบวช (1) บทสวด (1) บทสวดคาถาเงินล้าน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (1) บทสวดมนต์ช่วยให้หายโรคภัย (1) บริษัททำงาน (1) บัวหิมะ (1) บีบีครีม (1) เบาหวาน (1) แบรนด์ (1) ประชาชน (1) ประเทศไทย (1) ประโยชน์ (2) ประโยชน์ของกาแฟ (1) ประวัติ (1) ประหารพระธิดา (1) ปลาเค็ม (1) ปวดหลัง (2) ปวดเอว (1) ปวดเอวซ้าย (1) ปาฏิหารย์จากแรงภาวนา (1) ปาฏิหารย์แห่งการตั้งจิตภาวนา (1) ปู่เย็น แก้วมะณี (1) เป็นหวัด (1) แปลงภาพ (1) ผลกรรมแสดงฤทธิ์ (1) ผิวหน้าเนียน (1) แผนชั่วของสองราชบุตรเขย (1) แผ่เมตตาตนเอง (1) แผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ (1) ฝัน (1) พระคุ้มครอง (2) พระเจ้าเมี่ยวจวงกลับใจ (1) พระเจ้าเมี่ยวจวงล้มป่วย (1) พระเทพ (1) พระธาตุแช่แห้ง (1) พระธิดาน้อยกับวีรกรรมในสวนอุทยาน (1) พระธิดาเมี่ยวซ่านออกบวช (1) พระบรมราชาภิเษก (1) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (1) พระโพธิสัตว์ (28) พระราชประวัติในหลวง (1) พระอาจารย์คึกฤทธิ์ (1) พลังตัวเลข (1) พายุ เรือ (1) พิมพ์เลขยกกำลัง (1) เพลงที่ชอบ (2) โพชฌังคปริตร (1) ฟอร์จูนชั้น3 (1) ฟังก์ชั่น (1) ภัยร้ายครั้งใหม่ (1) ภาพการ์ตูน (1) ภาพนิมิตในสมาธิ (1) ภูเพียงพระธาตุแช่แห้ง (1) มนต์สะกดแห่งขุนเขา (2) มนุษย์ขนและสมาชิกใหม่ (1) มวล (1) มองโลกในแง่ดี (1) มาม่าหมดอายุ (1) มารในนิมิต (1) มีกลิ่นปาก (1) เมี่ยวซ่าน (25) แม่ (1) ไม่ได้เป็นเว็บมาสเตอร์ (1) ยาที่ควรกินคู่กัน (1) ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน (1) ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง (1) ยืน (1) โยเกิร์ต (1) โยเกิร์ตทำเอง (1) รถหาย (1) รวมชื่อแบรนด์ (1) รองเท้า (1) รักคือ (1) รักษา (2) รัชดา17 (1) รับจ้าง (1) รับทำภาพถ่ายเป็นภาพวาดการ์ตูน (1) รับฝากซื้อวิตามินไอเฮิร์ป iherb (1) รับสกรีนเสื้อ (1) รับสั่งซื้อวิตามินอเมริกา (1) ราชปรารภ (2) ร่ำรวย (1) เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม (1) เริ่มศึกษาพระธรรม (1) เรือ (1) เรื่องของกลิ่นปาก (1) เรื่องย่อละคร (1) เรื่องเล่าสาวดอย (26) โรคตับจากสุรา (1) ลดน้ำหนัก (1) ลดอ้วน (1) ลมจ๋า - โจแฟ็กซ์ (1) ลอยกระทงออนไลน์ (1) ลักษณะของดาวจันทร์ (1) ลิงค์เว็บ (1) ลุงแจวเรือจ้าง (1) เลข 1-100 (1) เลื่อมพรายลายรัก (1) และแดนนิรวาณ(นิพพาน) (1) วัด (3) วัดนาป่าพง (1) วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (1) วันดี (1) วันนี้เก่งจัง (1) วันมาฆบูชา (1) วันสำคัญ (1) วิตามินอเมริกา (1) วิตามินไอเฮิร์ป (1) วิธีติดโค้ด adsense (1) วิธีแต่งหน้า (1) วิธีทาครีม (1) วิธีปลูกองุ่น (1) วิธีเป่าผมให้แห้ง (1) วิธีเลี้ยงบัวหิมะ (1) เว็บมาสเตอร์ (2) แว่นตา (1) ศรีริต้า เจนเซ่น (1) สงกรานต์ (1) ส่งเว็บเข้าประกวดไม่ทัน (1) สถานที่ (1) สมัครสมาชิกขายภาพ (1) สอนทำโฮมเพจ (2) สัพปีตีโย (1) สัมมาทิฐิ (1) สาวดอย (3) สาเหตุ (1) สิว (1) สีทาบ้าน (1) สีที่ช่วยเพิ่มพลังของโชคลาภเงินทอง (1) สี่พยัคฆ์ร้าย (1) สืบค้นข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ (1) สุขภาพ (7) สูตรขนม (1) สูตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (1) สูตรทำขนมไมตรี (1) สู่ยอดเขา พบเทพชี้ทาง (1) เสธ.แดงลาโลกแล้ว (1) เสียงปืน (3) เสียงปืนดังอีกแล้ว (1) เสียใจ (1) เสื้อแดง (3) เสื้อผ้า (1) เสื้อเหลือง (1) หน้าแห้งลอก (1) หน้าแห้งลอกเป็นขุย (1) หนุ่มนักเรียนนอก (1) หลีกเลี่ยง (1) หารายได้จาก google adsense (1) ให้ ปลดออกไปเป็นสามัญชน (1) อกุศลกรรม (1) อพยพ (1) อยากขายไอศกรีมเนสท์เล่ (1) ออกกำลังกาย (3) ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด (1) ออกเดินทางและอันตราย (1) อัดเสียงไว้ (1) อั๋น วิทยา (1) อาหาร (3) อาหารที่ไม่ควรทานร่วมกัน (1) อาหารฤทธิ์เย็น (1) อาหาร ฤทธิ์ร้อน (1) โฮมเมดโยเกิร์ต (1) a (1) An (1) BB (1) BBcream (1) Coffee (1) cosmetic (1) domainForSale (1) favicon (1) FW mail (1) google adsense (2) ico (1) icon (1) iherb (1) iherb.com (1) iherb vitamin (1) iWiSoft Flash SWF Downloader (1) jofax (1) jumMenu (1) KAครีม (1) load flash (1) MV (2) nestle (1) ourking.in.th (1) Qr Code (1) The (1) vitamin (1) vitamin USA (1) wishscreen (1) word (1)