ตอนที่ ๒๗
พระ เจ้าเมี่ยวจวงล้มป่วย
จน กระทั่งวันหนึ่ง พระกวนอิมทรงทอดพระเนตรไปยังอาณาจักรซิงหลิง ก็พบว่าบัดนี้พระเจ้าเมี่ยวจวงทรงทุกข์ทรมานจากโรงมะเร็งร้าย ทั่วพระวรกายเต็มไปด้วยแผลพุพอง น่ากลัว ทั้งนี้เป็นเพราะผลแห่งกรรมที่ทรงทำไว้ พระกวนอิมทรงทราบดีว่าหากพระบิดาสิ้นพระชนม์ไปในยามนี้ ย่อมต้องตกนรกภูมิสู่ขุมสุดท้าย หนทางเดียวที่จะช่วยเหลือได้คือ ใช้แขนและดวงตาแห่งพระโพธิสัตว์ทำเป็นยารักษา ดำริแล้วก็ทรงมอบหมายให้ภิกษุซ่านไฉ่ไปยังอาณาจักรซิงหลิงและบอกวิธีรักษา แก่พระเจ้าเมี่ยงจวง เมื่อหายแล้วจงเกลี้ยกล่อมให้สละราชสมบัติ เดินทางมาที่เกาะโปตละโลกาแห่งนี้
ภิกษุ ซ่านไฉ่หายตัวมาปรากฏกายขึ้นที่อาณาจักรซิงหลิง ซึ่งขณะนั้นกำลังมีทหารประกาศป่าวร้องว่า "ขณะนี้พระมหาจักรพรรดิทรงประชวรจากโรคประหลาด ถ้าใครสามารถรักษาพระองค์จนหายจะได้รับพระราชบัลลังก์เป็นการตอบแทน" ซ่านไฉ่เห็นเป็นโอกาสเหมาะจึงออกมาหน้าฝูงชน รับอาสารักษาอาการของพระเจ้าเมี่ยงจวง เมื่อภิกษุซ่านไฉ่มาถึงห้องบรรทมก็พบว่ามีหมอหลวงหลายคนยืนล้อมรอบเตียงอยู่ พระธิดาสองพระองค์ยืนเฝ้าอยู่ห่าง ๆ อย่างเกรงโรคร้าย ที่มุมห้องโฮเฟงและเจาไควราชบุตรเขยยืนกระซิบกระซาบส่งสายตาดูถูกมายังภิกษุ ซ่านไฉ่ พระเจ้าเมี่ยงจวงนั้นนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนพระที่ ทรงมีแผลหนองทั่วพระวรกาย
ครั้น ทอดพระเนตรเห็นภิกษุแปลกหน้าจึงตรัสด้วยเสียงอันแหบแห้งว่า "ท่านนักบวชท่านมารักษาเราหรือมาเพื่อเยาะเย้ยเรา ผู้เคยเกลียดชังศาสนาของท่าน" ซ่านไฉ่ทูลว่า "ความโกรธหรือพยาบาทจะถูก แทนที่ด้วยความเมตตาเสมอ มหาบพิตร อาตมาเดินทางมาเพื่อบอกว่าอาตมารู้วิธีลับในการรักษาอาการป่วยของพระองค์" พระเจ้าเมี่ยงจวงผุดลุกขึ้นนั่งอย่างมีหวังขึ้นมาทันที ทุกคนในห้องเงียบกริบรอฟังคำของภิกษุหนุ่มอย่างจดจ่อ พระเจ้าเมี่ยวจวงตรัสว่า "ท่านจงว่ามาโดยเร็วเถิด" ซ่านไฉ่เอ่ยขึ้นว่า "การรักษานั้นไม่ยากอะไรเพียงแต่ตัวยานั้นยากที่จะเสาะหาได้ เพราะต้องใช้น้ำมันที่ทำด้วยแขนและดวงตาของผู้ปราศจากความโกรธเท่านั้น"
พระ เจ้าเมี่ยงจวงไม่เชื่อว่าจะมีบุคคลเช่นนั้นอยู่ในโลกจนกระทั่งซ่านไฉ่ทูลว่า "ท่านผิดแล้ว มหาบพิตร ไกลออกไปทางทะเลใต้มีเกาะชื่อ โปตละโลกา เป็นที่สถิตของพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ซึ่งยอมสละอวัยวะอินทรีย์ให้แก่ผู้ใดก็ได้ที่ต้องการ" พระเจ้าเมี่ยวจวงฟังดังนั้นก็รีบสั่งการให้แม่ทัพเจาเจนและองครักษ์ หลีฉิน เดินทางไปยังเกาะโปตละโลกาทันที จากนั้นจึงรีบสั่งให้จัดการรับรองซ่านไฉ่ภิกษุอย่างดีภายในพระราชฐานชั้นใน โฮเฟงและเจาไควกระซิบกระซาบอย่างมีเลศนัย แล้วพากันเดินออกมาจากห้องพระบรรทม
ทั้ง สองมาปรึกษากันภายในเทวสถานเทพแห่งสงครามอันลับตาคน โฮเฟงกล่าวว่า "น้องรอง หากเป็นดังที่ภิกษุว่ามีผู้ยอมสละแขนและดวงตาให้แก่ผู้อื่นจริง ๆ แล้ว แผนการของเรามิล้มเหลวหมดหรือ" เจาไควจึงว่า "เรื่องพระโพธิสัตว์อะไรนั่นอาจเป็นพระธิดาสามเมี่ยวซ่านก็เป็นได้ และถ้าเป็นนางจริง นางก็ต้องยอมสละอินทรีย์เพื่อรักษาพ่อตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้น หากเรารอให้เสด็จพ่อตายตามธรรมชาติก็ป่วยการเปล่า เราควรกำจัดเสี้ยนหนามเสียตั้งแต่ตอนนี้ทั้งเสด็จพ่อ ทั้งภิกษุบ้า ๆ นั่น"
จบ ตอนที่ ๒๗
ติดตามต่อตอนที่ ๒๘ แผนชั่วของสองราชบุตรเขย
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^