ตอนที่ ๒๔
สู่ยอดเขา พบเทพชี้ทาง
สามวันต่อมา คณะเดินทางก็ขึ้นสู่ยอดเขาได้สำเร็จ พบป้ายศิลาตั้งตระหง่านอยู่เหนือศีรษะ มีตัวหนังสือสลักว่า แดนชนะ ทั้งสามปีติยินดียิ่ง ก้มกราบป้ายศิลาคนละครั้งแล้วเดินต่อไปอีกประมาณหนึ่งลี้ ก็พบชะง่อนหินโค้งคล้ายหลังคา ให้ร่มเงาแก่ลานหินกว้างด้านล่างอย่างดี บนลานหินนี้เองมีผู้เฒ่าคิ้วยาว หนวดยาวสีขาวดังปุยสำลี ผู้เฒ่าทอดแววตาแจ่มใสและเมตตามายังคณะเดินทาง เมี่ยวซ่านไต้ซือคิดว่าผู้อาวุโสนี้หากมิใช่พระพุทธองค์แปลงกายมาโปรดก็ต้อง เป็นผู้สำเร็จธรรมชั้นสูง จึงพาศิษย์เข้ากราบคารวะขอคำชี้แนะแนวทางแห่งการหลุดพ้น ผู้เฒ่าคิ้วยาวกล่าวว่า "ดีจริง ๆ พวกเจ้าลำบากสาหัสในการเดินทางก็ยังไม่เปลี่ยนความตั้งใจ เราคือเทพไท้ ไป๋ มารอเพื่อจะบอกว่า ธรรมอันวิเศษแท้จริงแล้วมิได้อยู่ที่นี่"
เมี่ยว ซ่านไต้ซือถามว่า "ขอผู้อาวุโสโปรดช่วยชี้ทางหลุดพ้นจากกิเลสเถิด เพราะแต่เดิมมีท่านนักพรตนามโล้วนาปู้เจี้ยนกล่าวว่า ต้องมาขอพรต่อดอกบัวหิมะในดินแดนแห่งนี้จึงจะพบผลสำเร็จที่แท้จริง" ผู้เฒ่าคิ้วยาวจึงว่า "เขาเล่นทิ้งปริศนาไว้พวกเจ้าจึงต้องดั้นด้นมาจนถึงเขาลูกนี้ เราจะแจ้งให้รู้ก็ได้ว่า ปางก่อนเจ้าเป็นพระผู้เมตตามุ่งมั่นช่วยชาวโลกให้พ้นทุกข์ กระทั้งจุติในอาณาจักรซิงหลิงก็ยังไม่ทิ้งความตั้งใจเดิม ทั้งยังสร้างบารมีเต็มเปี่ยม ไม่ช้านี้เจ้าจะบรรลุธรรม ส่วนดอกบัวหิมะนั้นมีคนนำไปยัง เกาะโปตละโลกา เพื่อสร้างแดนอันสงบสุขสำหรับเจ้า ซึ่งเจ้าจะได้สัมผัสในอีกไม่นานนี้ ส่วนศิษย์ผู้ติดตามทั้งสอง บารมียังไม่ถึงขั้นต้องบำเพ็ญธรรมอีกระยะหนึ่งก็จะบรรลุเช่นกัน"
เทพ ไท้ไป๋กล่าวต่อไปว่า "หลังจากนี้เจ้าจงเข้าใจหลักธรรมด้วยตนเอง เพราะเราเพียงช่วยสะท้อนให้เจ้าเข้าใจหนทางเท่านั้น" ครั้นแล้วเทพไท้ไป๋จึงหยิบแจกันหยกขาวยื่นให้เมี่ยวซ่านไต้ซือ พลางว่า หาก พบว่าในแจกันนี้มีน้ำขังและมีกิ่งหลิวโผล่ขึ้นมา แสดงว่าวันนั้นคือวันที่เจ้าจะบรรลุธรรม ไต้ซือรับแจกันมาแล้วจึงคารวะอำลาเทพไท้ไป๋
หนทางกลับในคราวนี้มิได้ ลำบากเลยผิดกับขามาลิบลับ ทั้งสามเพียงแต่มุ่งหน้าขึ้นเหนือ ไม่หลงทาง ไม่พบอุปสรรค เมี่ยวซ่านไต้ซือกล่าวว่า "เพราะบัดนี้เราสงบแล้วทั้งกาย ใจ ประกอบกับความกระจ่างแจ้งแห่งธรรมว่า ธรรมอันวิเศษสามารถช่วยให้หลุดพ้นจากวัฏสงสารสู่นิพพานได้"
พระ แม่กวนอิม วิสุทธิมรรคคีรี สระบุรี
ในที่สุดคณะเดินทางก็กลับมาถึงเชิงเขาเยี้ยม้อซานในอาณา จักรซิงหลิง บรรดาชาวบ้านร้านตลาดต่างเปล่งเสียงไชโยดังกระหึ่ม เหล่าภิกษุณีตีระฆัง และตั้งขบวนรับอยู่ที่เชิงเขา ต่างเข้ามาห้อมล้อมต้อนรับอย่างยินดี เมื่อสู่ลานประชุมทุกคนซักถามถึงการเดินทางจากเมี่ยวซ่านไต้ซือ ต่างฟังเรื่องราวทุกเหตุการณ์อย่างตื่นเต้น อุทานอมิตตาพุทธอยู่ไม่ขาดปาก บ้างก็กล่าวว่า พุทธบารมีคุ้มครองขบวนนักเดินทางให้ปลอยภัย
ครั้น แล้วไต้ซือได้นำแจกันหยกขาวออกมาวางใกล้ ๆ พระพุทธรูป ทุกคนที่ฟังรู้ทันทีว่าแจกันนี้คือของวิเศษล้ำค่า ต่างเฝ้ารอคอยอย่างจดจ่อว่าเมื่อใดที่จะมีน้ำทิพย์เต็มเปี่ยมและกิ่งหลิว โผล่ขึ้นมา อันหมายถึงจะเป็นวันที่ไต้ซือเมี่ยวซ่านจะบรรลุธรรมแห่งความหลุดพ้น
ระหว่าง ที่ไต้ซือเล่าเรื่องราวการเดินทางอยู่นั้น มีคนภายนอกมายืนออฟังเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีเด็กน้อยเจ้าปัญญาแต่ซุกซนและดื้อรั้นจนเป็นที่เลื่องลือนาม ว่า เซิ่นอิง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เด็กผีจอมซน ได้ฟังด้วย เซิ่นอิงคิดตามประสาเด็กฉลาดว่าแจกันเปล่า ๆ ตั้งอยู่อย่างนั้นย่อมไม่มีทางที่จะมีน้ำเต็มได้ ดังนั้น ไต้ซือย่อมไม่อาจบรรลุมรรคผลได้จริง พลันเขาก็คิดแผนขึ้นมาอย่างหนึ่งโดยไม่ปริปากบอกใคร เซิ่นอิงมาเที่ยวเล่นในวัดบ่อย ๆ จนสืบรู้ว่าแจกันหยกขาวอยู่หน้าพระประธานในห้องวิปัสสนา เวลากลางวันก็จะมีคนนั่งเข้าฌานอยู่เต็ม ตกค่ำประตูหนาหนักก็จะปิดสนิทยากที่คนนอกจะเข้าไปได้ จอมแสบรายนี้จึงรอวันเวลาที่เอื้ออำนวยต่อแผนการของตนอย่างจดจ่อ
จบ ตอนที่ ๒๔
ติดตามต่อตอนที่ ๒๕ เด็กซนทำเรื่อง และ การบรรลุธรรม
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^