ตอนที่ ๑๕
การปฏิบัติกิจของไต้ซือเมี่ยวซ่าน และภาพนิมิตในสมาธิ
เจ้าแม่กวนอิมกลางทะเลองค์ใหญ่ที่สุด ในโลก
รูปปั้น เจ้าแม่กวนอิม ความสูง 108 เมตร กลางทะเลหนันซัน ในเมืองซันย่า มณฑล ไห่หนัน (ไหหลำ)
มูลค่า 1,000 ล้านหยวน (5,000 ล้านบาท)
ทุกๆ วันเหล่าภิกษุณีจะทำวัตรปฏิบัติธรรมท่องสาธยายพระสูตร เมื่อไม่เข้าใจแจ่มแจ้งในตอนใดก็จะให้เมี่ยวซ่านไต้ซือชี้แนะทุกครั้ง เมื่อยามว่างจากกิจต่างๆ เมี่ยวซ่านไต้ซือจะคอยนำสนทนาเรื่องในพระธรรมให้กระจ่าง ความเย็นใจและไพเราะจากพระธรรมไม่ได้โน้มน้าวเฉพาะคนในวัดเท่านั้น ชาวบ้านใกล้วัดต่างเข้ามาฟังธรรมด้วยความเลื่อมใสศรัทธาเพิ่มขึ้น
เจ้าแม่กวนอิม วัดคงคาเลียบ ต.ท่าช้าง อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา
จนกระทั่ง ๓๖๙ วันผ่านไป ผู้คนที่หลั่งไหลมาฟังธรรมอันมากคุณประโยชน์ ต่างเพิ่มพูนจิตศรัทธาและมุ่งหวังแสงสว่างแห่งธรรมจากเมี่ยวซ่านไต้ซือ ที่กรุณาชี้แนะหนทางอันประเสริฐ อานิสงส์แห่งการกินเจ ความไม่เอารัดเอาเปรียบทางการค้า และยังทรงจัดเตรียมข้าวต้มและอาหารเจไว้สำหรับคนยากจนที่เดินทางมาไกล เพื่อฟังธรรมด้วยความตั้งใจจริง กิตติศัพท์ความเมตตาและบารมีธรรมตั้งแต่ประสูติของไต้ซือ ส่งผลให้ประชาชนทั้งยากดีมีจนเดินทางมาเยือนวัดจินกวงหมิงกันอย่างคึกคัก เชิงเขาเยี้ยม้อซานจึงเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและชื่นบานกับความเจริญที่แผ่มาถึง
ครั้น ถึงฤดูหนาวอันทารุณ ลมจากทิศเหนือพัดพาความหนาวเหน็บจนปวดกระดูก เป็นที่น่าเวทนาสำหรับคนยากจนไร้เสื้อผ้าหนาๆ มาป้องกันความหนาวเย็น ไต้ซือเมี่ยวซ่านรับรู้ความทุกข์ทรมานข้อนี้ดี ทรงห่วงใย และสงสารชาวบ้านผู้ยากไร้เหล่านี้ จึงให้คนไปซื้อผ้าสำลีจำนวนมากมาตัดแบ่งเป็นหลายขนาด แจกจ่ายให้ภิกษุณีรูปอื่น ๆ ช่วยกันตัดเย็บ ทุกคนร่วมมือกันอย่างขันแข็งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ไม่กี่วันต่อมาก็ได้เสื้อหนาวผ้าสำลีจำนวนมากไว้แจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้
เมื่อ ถึงคราวบรรยายธรรมไต้ซือได้จัดหม้อข้าวต้มขนาดใหญ่ไว้แจกแก่ผู้เดินทางมา ด้วยความหิวโหย แม้ข้าวต้มเปล่า ๆ ไร้กับข้าวเคียงก็ยังอิ่มหนำ นอกจากนี้ยังได้รับเสื้อผ้าสำลีอันอบอุ่นโดยถ้วนหน้ากัน
ใน ที่สุดคนทั้งอาณาจักรต่างมุ่งหน้ามายังเยี้ยม้อซานเพื่อถวายตัวเป็นศิษย์ไต้ซือเมี่ยวซ่านกันเป็นจำนวนมาก ไต้ซือเองก็มิได้ปฏิเสธ จัดหาที่พักให้ทุกคน จนห้องว่างในบริเวณวัดมีผู้อาศัยอยู่เต็มไปหมด แต่ผู้คนก็ยังหลั่งไหลมาฝากตัวอยู่เสมอ ไต้ซือเมี่ยวซ่านคิดว่า "พื้นที่รอบวัดยังมีอยู่มหาศาล เราน่าจะมอบสิ่งที่พวกเขาจะดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้โดยไม่ห่างไกลพระ ธรรม" แล้วจึงทรงมอบไม้ไผ่ หญ้าคา และเงินทุนเล็กน้อยให้แก่ชาวบ้านเหล่านั้นเพื่อนำไปปลูกกระท่อมพักอาศัยในบริเวณเชิงเขา หาเลี้ยงชีพตามวิถีธรรม ไม่นานนักเชิงเขาเยี้ยม้อซานก็ได้กลายเป็นเมืองขนาดเล็กที่สงบสุข ท่ามกลางความสุขใจของเมี่ยวซ่านไต้ซือ
คืน วันเคลื่อนคล้อยไปย่างเข้าสู่ปีที่ ๓ ในอารามจินกวงหมิงยังคงสงบสุขด้วยบารมีธรรมของเมี่ยวซ่านไต้ซือ วันหนึ่งขณะที่ไต้ซือนั่งสมาธิบำเพ็ญฌานเฉกเช่นทุกวัน ทันใดนั้น สองเสียงของชายซึ่งไม่คุ้นเคยก็ได้แทรกเข้ามาในจิตว่า จิตอันเป็นเอก ได้ผลิดอกบัวแห่งการตรัสรู้แล้วหรือยัง อีกเสียงตอบว่า ผลิออกมาแล้ว ขาดก็แต่พระโพธิสัตว์ เมี่ยวซ่านไต้ซือคิดว่าเหล่ามารมาลองดีจึงสำรวมจิตให้สงบนิ่ง พลันได้เห็นจิตของตนแปรเป็นดอกบัวบริสุทธิ์มีพระโพธิสัตว์นั่งอยู่ เมื่อเพ่งมองก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกปีติสุข เพราะพระโพธิสัตว์นั้นคือ ตัวพระองค์เอง !!
ความดีใจทำให้จิตไม่สงบนิ่งพอ ภาพนิมิตนั้นจึงมลายหายไป ไต้ซือลืมตาขึ้นความปีติแผ่ซ่าน เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เห็นตามนิมิตนั้นจะบังเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านาน
วัน ต่อมา เมี่ยวซ่านไต้ซือได้กล่าวแก่สานุศิษย์ทั้งหลายว่า "หลายปีก่อน เราได้พบพระพุทธเจ้าในนิมิต พระองค์ตรัสว่า หากเราต้องการบรรลุมรรคผลจำเป็นต้องตามหาบัวหิมะบนยอดเขาซีมี่ซาน และเมื่อคืนวาน เราก็บังเกิดนิมิตถึงบัวหิมะอีกครั้ง จึงคิดว่าบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะเดินทางเพื่อแสวงหาบัวนั้นดังพุทธฎีกา พวกท่านที่อยู่ทางนี้จงตั้งใจปฏิบัติธรรมและตั้งอยู่ในความไม่ประมาท" จากนั้นเมี่ยวซ่านไต้ซือได้แต่งตั้งภิกษุณีอาวุโสเป็นผู้รักษาการแทน ส่วนพระน้านางและย่งเหลียนได้ขอติดตามเมี่ยวซ่านไต้ซือไปด้วยจนกว่าจะสัมฤทธิผลตามประสงค์ เมี่ยวซ่านไต้ซือก็มิได้ขัดข้องแต่ประการใด
ก่อนออกเดินทางทั้งสามได้จัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็นใส่ในถุงผ้า ประกอบด้วยเสื้อผ้า ข้าวเปลือกตากแห้ง รองเท้าฟางหลายคู่ ซึ่งมาจากฝีมือของไต้ซือเมื่อยามถูกลดศักดิ์ให้เป็นคนครัว รวมทั้งบาตรทองสัญลักษณ์ในการประกาศว่าบัดนี้จะทรงออกจาริกแสวงบุญนอกอาราม แล้ว
จบตอนที่ ๑๕
ติดตามต่อตอนที่ ๑๖ การออกเดินทาง และอันตรายที่รออยู่
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^