ตอนที่ ๒๒
มารใน นิมิต และเผชิญหน้าหมีขาว
แล้วทั้งสามจึงออกเดินไปตามทางวกวน ขรุขระ เดี๋ยวขึ้นเนิน เดี๋ยวลาดชันลงต่ำ ทำให้ต้องใช้สมาธิอย่างมาก จนกระทั่งพบถ้ำซึ่งพอจะเป็นที่บำเพ็ญฌานสมาธิได้ จึงตกลงใจเข้าพักปฏิบัติธรรม แม้ภาพของงูยักษ์อันน่าสยดสยองเมื่อกลางวันยังติดตา แต่ผู้มีธรรมย่อมไม่มีนิวรณ์มากล้ำกลาย ไต้ซือและพระน้านางจึงนั่งสมาธิเจริญฌานได้อย่างสงบ
คงมีแต่ย่ง เหลียนเท่านั้นที่ขณะนี้จิตใจฟุ้งซ่านร้อนรนดั่งนั่งอยู่ในเตาไฟ ครั้นลืมตาขึ้นดูก็พบว่าหินและผนังถ้ำลุกโชนด้วยเปลวไฟร้อนระอุล้อมรอบและ เผาร่างของสองภิกษุณี แต่ว่าทั้งสองมิได้รู้สึกหวั่นไหวอะไร ย่งเหลียนจึงรู้ว่าตนเองควบคุมจิตใจไม่มั่นคงพอเหล่ามารเลยมาผจญ เธอจึงสลัดความคิดอย่างอื่น แน่วแน่ในทางภาวนา ชั่วครู่จิตก็สงบ แต่ต่อมาย่งเหลียนกลับหนาวสะท้านเหมือนแช่อยู่ในทะเลน้ำแข็ง เมื่อลืมตา ก็พบว่าทั้งสามจมอยู่ในน้ำสกปรกโสโครก คลื่นซัดสาดกระทบผนังหิน ไต้ซือและพระน้านางยังคงสงบนิ่ง เธอจึงรำพันว่า "วันนี้มารจ้องผจญเราเสียจริง" แล้วจึงมุ่งจิตภาวนาอย่างแน่วแน่อีกครั้ง
ใน ที่สุดภาพหลอนนั้นก็มลายหายไป ย่งเหลียนสงบจิตใจได้พักหนึ่ง พลันมีเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ! ดังสนั่น เธอตกใจลืมตาขึ้นก็พบกับเทวดาสวมเกราะทองถือฆ้องทองเป็นอาวุธ จ้องมองเธออย่างโกรธเกรี้ยว ถมึงทึง เทวดาองค์นั้นเหาะเข้ามาเงื้อมือฟาดฆ้อนทองลงมากลางศีรษะเธอ ย่งเหลียนควบคุมจิตไม่อยู่ร้องขึ้นเสียงดัง "โอ้ย !" ไต้ซือเมี่ยวซ่านและพระน้านางรู้สึกตัวหลุดจากภวังค์ ถามย่งเหลียนว่า "เป็นอะไรไปย่งเหลียน" ย่งเหลียนจึงเล่านิมิตทั้งหมดให้ฟังทำให้ไต้ซือทราบว่าศิษย์นำเหตุการณ์ เมื่อกลางวันมาคิดวิตกกังวล จึงกล่าวว่า "ทั้งหมดที่เจ้าเล่ามาเป็นนิมิตชั่วขณะ บัดนี้เจ้าได้ล่วงพ้นจากมารผจญแล้ว เพราะเทวดาเกราะทองมาช่วยเตือนสติ" แล้วจึงให้ย่งเหลียนบำเพ็ญธรรมเพิ่มมากขึ้น"
เมื่อ ตะวันพ้นขอบฟ้า คณะของไต้ซือก็ลุกขึ้นเก็บสัมภาระออกเดินทางต่อ พบผลไม้ป่าที่สัตว์ป่ากินได้จึงเก็บกินประทังหิว จนกระทั่งเที่ยงวันทั้งสามได้พบหมีขาวตัวใหญ่เดินงุ่นง่านหาอาหารอยู่เบื้อง หน้า ไต้ซือรีบบอกให้ทุกคนนอนลงกับพื้น กลั้นลมหายใจหรือหายใจให้น้อยที่สุดเสมือนเป็นคนตาย เพื่อหลบภัยจากหมียักษ์ พร้อมกันนั้นเจ้าหมีเริ่มได้กลิ่นคนจึงตามกลิ่นมาถึงที่ทั้งสามแกล้งนอน ตายอยู่ มันยืนดมซ้ายขวาพิจารณาร่างของทั้งสามเป็นเวลาเกือบชั่วยาม เมื่อเข้าใจว่าเหยื่อตายแล้วก็คำรามผิดหวังอยู่ในลำคอแล้วเดินตุบตับเข้าชาย ป่าไป ทั้งนี้เป็นเพราะธรรมชาติของหมีจะเกลียดซากศพคนตายที่สุด เมื่อพบแล้วจะไม่กินหรือเข้าใกล้เด็ดขาด
หลัง จากแก้วิกฤตหมีขาวแล้วทั้งหมดจึงพากันเดินทางต่อไปอีกหกสิบลี้ พบลำธารใสสะอาด จึงนั่งพักผ่อนดื่มน้ำแก้กระหาย ระหว่างนั้นได้หยิบก้อนหินเล็ก ๆ ขึ้นมาโยนลงน้ำเล่นกัน เห็นสายน้ำกระเซ็นเป็นฟองฝอยดูเพลิดเพลิน เมี่ยวซ่านไต้ซือเทศนาธรรมไปพร้อมกันนี้ว่า "ธรรมชาติของน้ำนั้นสงบนิ่งแต่เราโยนหินลงไปให้น้ำกระจายเป็นฝอย กระเพื่อมเป็นวงแล้วก็กลับสงบนิ่งเช่นเดิม นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ความ เปลี่ยนแปลง จากเคลื่อนไหวสู่ความสงบและสงบสู่เคลื่อนไหวอันเป็นสัจธรรม" ย่งเหลียนยังไม่ค่อยเข้าใจ พลันก็มีหินก้อนหนึ่งลอยมาถูกศีรษะเธอ ธรรมะคราวนั้นจึงกระจ่างแจ้ง สงบสู่เคลื่อนไหว เคลื่อนแล้วก็สงบอีก พระน้านางเองก็พยักหน้าเข้าใจ ไต้ซือยิ้มพึงพอใจศิษย์ทั้งสองคน
จบตอนที่ ๒๒
ติดตาม ต่อตอนที่ ๒๓ พบฝูงลิงจอมเลียนแบบ การเผชิญความหนาวเหน็บ
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^