ตอนที่ ๒๕
เด็กซน ทำเรื่อง และ การบรรลุธรรม
วันหนึ่งเซิ่นอิงคิดหาวิธีเข้าไปแอบในวัดโดยไม่ให้คนล่วง รู้ แอบเก็บน้ำสะอาดและกิ่งหลิวไว้ในที่ลับตา จากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บฟืน จุดไฟขึ้นเผาฟืนกองหนึ่งแล้วตนเองก็แอบออกมา ชั่วครู่ไฟก็ลุกไหม้ห้องเก็บฟืนควันโขมง ภิกษุณีลูกวัดต่างร้องตะโกนให้มาช่วยกันดับไฟ ทุกคนรีบคว้าถังตักน้ำมาช่วยกันดับไฟ ห้องวิปัสสนาจึงว่างเปล่า เด็กจอมซนรีบแอบเข้าไปปีนขึ้นโต๊ะบูชากรอกน้ำใส่ในแจกันและปักกิ่งหลิวอย่าง บรรจง เซิ่นอิงพึงพอใจในผลงานของตนมาก รีบเช็ดรอยเท้าไม่ให้เหลือรอย ก่อนจะกระโดดแผล็วหนีหายไป
ขณะนั้นชาว บ้านและสานุศิษย์ที่เชิงเขาต่างกรูกันมาช่วยดับไฟคนละไม้ละมือ เซิ่งอิงฉวยถังไม้ได้ใบหนึ่ง เข้ามารวมกลุ่มช่วยชาวบ้านดับไฟเช่นทุกคน ในใจก็คิดรอเวลาเยาะเย้ยไต้ซือที่ชาวบ้านชื่นชมบูชา หลงคิดว่าแจกันมีน้ำทิพย์และกิ่งหลิวเกิดขึ้นเองแล้วโอ้อวดว่าตนบรรลุมรรคผล เซิ่นอิงคนนี้ล่ะจะเปิดโปงความลวงโลกของไต้ซือเอง อนิจจา ! เด็กน้อยผู้ไม่รู้ประสา ไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่ตนได้กระทำนั้นจะบังเกิดผลอันใดตามมา ...ครั้นไฟสงบลงทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ไม่มีใครได้เข้าไปหรือเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของแจกันในห้องวิปัสสนาเลย
จน กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ภิกษุณีผู้ทำความสะอาดโต๊ะบูชาพบความผิดปกติในแจกันหยกขาว ก็ดีใจจนลืมหน้าที่เช็ดถู รีบวิ่งออกมาจะรายงานพระผู้ใหญ่จนชนกับย่งเหลียนที่สวนทางมา เมื่อบอกเหตุที่ตนดีใจจนผิดปกติแล้ว ย่งเหลียนยินดีเป็นอันมากรีบเข้ามาหาไต้ซือที่กุฏิ เมื่อพบหน้ากัน ไต้ซือกลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนว่า "ย่งเหลียนเอ๋ย เจ้ามาพอดีเรากำลังจะเรียกเจ้ามาบอกข่าวว่า เมื่อคืนนี้ขณะที่นั่งสมาธิอยู่เราก็รู้สึกว่ามีดอกบัวขาวบานอยู่ในใจ จึงคิดว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่เราสำเร็จมรรคผล" ย่งเหลียนขนลุกวาบด้วยความตื่นเต้นและปลาบปลื้มกล่าวว่า "หม่อมฉันรีบมาที่นี่ก็เพื่อจะบอกว่าบัดนี้แจกันหยกขาวมีน้ำอยู่เต็มปรี่และ ปรากฏกิ่งหลิวปักอยู่อย่างน่าอัศจรรย์เพคะ" ไต้ซือและพระน้านางฟังอย่างยินดี แล้วจึงให้จัดห้องปฏิบัติธรรมปลีกวิเวกเพื่อปลงสังขารในวันนั้นเอง (ปลงสังขาร หมายถึง การละจากร่างมนุษย์ หรือการตาย)
ไต้ ซืออาบน้ำด้วยแก่นจันทร์หอม เปลี่ยนผ้ากาสาวพัสตร์ พร้อมสำหรับการนั่งสมาธิมรณภาพปลงสังขาร เมื่อเข้ามายังห้องปฏิบัติธรรมก็พบเหล่าภิกษุณีลูกวัดเคาะกะโหลกไม้สวดมนต์ อยู่ก่อน ไต้ซือเมี่ยวซ่านเข้าประจำที่เริ่มนั่งวิปัสสนาตั้งแต่ปฐมฌานสู่วิมุตติฌาน เวลานั้นชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถบนั้นต่างรับรู้ข่าวไต้ซือจะสำเร็จเป็นพุทธะ ต่างมานมัสการรอดูความสำเร็จของไต้ซือที่พวกตนเคารพเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนี้มีเจ้าเซิ่นอิงจอมซนรวมอยู่ด้วย เด็กน้อยแปลกใจมากเบียดแทรกเข้าไปยืนดูอย่างถนัดตา ในใจก็รู้สึกขบขันไต้ซือที่ทำท่าเหมือนเคลิ้มหลับ เพราะบทสวดมนต์ยืดยาว จึงคิดจะแกล้งให้ไต้ซือโกรธจนตบะแตก เหมือนที่เคยแกล้งผู้ใหญ่คนอื่น ๆ สำเร็จมาแล้ว
คิด แล้วเซิ่นอิงก็แทรกมายืนตรงหน้าไต้ซือพอดี ร้องตะโกนใส่หน้าเสียงดังแล้วกระโดดขึ้นขี่คอ คว้าไม้เคาะสวดมนต์ฟาดลงไปกลางศีรษะไต้ซือดังเปรี้ยง ! คนรอบข้างต่างตกใจหน้าซีด แต่ไม่อาจมีใครขัดขวางเหตุการณ์อันรวดเร็วนี้ได้ เสียงอุทานร้องตกใจดังขึ้นพร้อม ๆ กัน ฉับพลันได้มีสายสีแดงคล้ายเลือดพุ่งขึ้นจากศีรษะของไต้ซือ ทุกคนคิดว่าไต้ซือหัวแตกเสียแล้ว ทว่าแสงสีแดงนั้นเปล่งรัศมีลอยสูงขึ้น ๆ และรวมตัวเป็นรูปธรรมของไต้ซือเหนือร่างกายเนื้อเบื้องล่าง ไต้ซือเมี่ยวซ่านนุ่งผ้ากาสาวพัสตร์ เท้าเปลือยเปล่า มือถือแจกันที่มีกิ่งหลิวโผล่มา ทุกคนต่างเปล่งเสียสาธุในความอัศจรรย์ครั้งนี้
ทั้ง นี้เป็นเพราะความซุกซนของเซิ่นอิงเป็นเหตุแท้ ๆ เนื่องด้วยจิตวิญญาณของไต้ซือบรรลุธรรมนานแล้ว แต่ไม่สามารถละสังขารเดิมได้ เพราะควันธูปและฝูงชนปะปนมากมาย กระทั่งมีสิ่งภายนอกมากระทบ นั่นคือไม้ของเซิ่นอิงทำให้ทวารเปิดออกในทันที จิตจึงละสังขารได้ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นความบังเอิญแต่ก็มีเหตุผลในตัวของมัน เนื่องมาจากเซิ่นอิงนั้นจริง ๆ แล้วเป็นประทีปแห่งกุศลทางทิศใต้ มาจุติเป็นผู้มีบุญและเชาวน์ปัญญาดีเลิศ และครั้งนั้นเซิ่นอิงก็รู้สึกสว่างไสวในธรรมภายในเวลาอันสั้น สำนึกตนและเคร่งอยู่ในศีลธรรมมากกว่าใครในบัดดล
จบตอนที่ ๒๕
ติดตาม ต่อตอนที่ ๒๖ การเลือกผู้รับใช้เบื้องซ้ายขวา
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
เชื่อมัยเราสวดมนตร์คาถาของเจ้าแม่กวนอิม
ตอบลบตั้งแต่ 10 กว่าขวบได้และ
ที่ห้องนอนเรามีไว้ที่หัวนอนเลย
ปู่เรานับถือ
ขอบคุณมากสำหรับสิ่งดีๆที่มีให้โลกสังคม
มาบอกแบบนี้ ก็ต้องเชื่อแล้วค่ะ ^^
ตอบลบดอยยังไม่เคยสวดบทเจ้าแม่กวนอิมเลยค่ะ..มีบทสวดแนะนำดอยได้นะคะ ^^
ส่วนตัวดอยเพิ่งเจอตำนานเจ้าแม่กวนอิมได้ไม่นานมานี้
จากบล็อกที่ดอยเอามาอะคะ (ต้องขอบพระคุณเค้าด้วยเพราะหาสิ่งดีๆให้อ่าน)
ตอนนี้ก็ยังอ่านไม่จบเลย ><
ขอบพระคุณมากๆนะคะ ที่แวะมาที่บล็อกดอย