ตำนานเจ้าแม่กวนอิม ตอนที่ ๔ บุรุษหนุ่มลึกลับและยาวิเศษ
ตำนานเจ้าแม่กวนอิม
ตอนที่ ๔
บุรุษ หนุ่มลึกลับและยาวิเศษ
หนึ่ง เดือนผ่านไปพระอาการต่าง ๆ ทั้งบาดแผลตามเนื้อตัวและกระดูกข้อเท้าที่หลุดใกล้หายดีดังเดิมแล้ว คงเหลือแต่แผลบนหน้าผากข้างขวาเท่านั้น ที่ยุบจนกลายเป็นแผลเป็นสีคล้ำทำลายความงามบริสุทธิ์บนใบหน้าของพระธิดาน้อย ให้เป็นรอยมลทิน สร้างความกังวลให้กับพระบิดามารดามาก เพราะเกรงว่าจะเป็นข้อบกพร่องในการเลือกราชบุตรเขยมาอภิเษกกับพระธิดาสาม
พระ เจ้าเมี่ยวจวงจึงมีพระราชโองการประกาศหาหมอฝีมือดีมารักษาแผลเป็นของพระธิดาสาม หากผู้ใดทำสำเร็จจะประทานรางวัลเป็นเงิน ทอง และตำแหน่งหมอหลวงประจำราชสำนัก ทันทีที่ประกาศติดทั่วเมือง บรรดาหมอและผู้รู้ทางยาก็ได้เข้าวังถวายการรักษาอย่างเต็มความสามารถ แต่ทว่าก็ไม่อาจทำให้แผลเป็นนั้นหายได้ พระเจ้าเมี่ยวจวงพิโรธมาก ทรงกักตัวหมอทั้งหมดไว้เตรียมสั่งเนรเทศ
กระทั่ง วันหนึ่งมีบุรุษหนุ่มลึกลับปรากฏตัวขึ้น อาสารักษาแผลบนพระนลาฏ (หน้าผาก) ของพระธิดาเมี่ยวซ่าน โดยมีข้อแม้ว่าพระเจ้าเมี่ยวจวงต้องปล่อยตัวหมอคนอื่น ๆ ไปเสียก่อน นามของเขาคือ โล้วนาปู้เจี้ยน
พระเจ้าเมี่ยว จวงทรงมีความหวังขึ้นมาทันที
"เจ้าจงบอกมาว่าจะใช้ตัวยาชนิดใดมารักษาลูกสามของเรา"
โล้วนาปู้เจี้ยนยิ้มแล้วตอบว่า
"วิธีการรักษาพระธิดาจำเป็นต้องใช้ยาวิเศษกับหมอวิเศษเท่านั้น ข้าผู้น้อยไม่มีทั้งยาและไม่ใช่หมอวิเศษ เพียงแต่รู้และเข้าใจ"
พระเจ้าเมี่ยวจวงฟังคำยอกย้อนซ่อนเงื่อนของชายลึกลับแล้วก็ได้แต่พิโรธ
"ในเมื่อเจ้าไม่ใช่หมอวิเศษหรือมียาวิเศษ เพราะฉะนั้นการรักษาลูกสามก็มิอาจทำได้"
โล้วนาปู้เจี้ยนหัวเราะแล้ว ทูลว่า "ในที่สุดพระองค์ก็เข้าใจ" ชนวนสุดท้ายถูกจุดขึ้น อารมณ์พิโรธยากจะต้านทาน พระเจ้าเมี่ยวจวงสั่งจับตัวโล้วนาปู้เจี้ยนไปคุมขัง รอการประหารชีวิตทันที "ทหาร...ลากตัวมันออกไป !"
พระนางเป้าเต๋อรีบห้ามพระสวามี "ช้าก่อนเพคะ ชายผู้นี้เพียงแต่บอกว่าเขาไม่มียาวิเศษ แต่ไม่ได้หมายความว่าบนโลกนี้ไม่มี ทรงพระทัยเย็นแล้วฟังเขาเจรจาความให้จบเถิด" พระเจ้าเมี่ยวจวงใคร่ครวญตามจนพระทัยเย็น จึงถามว่า "เจ้าจงบอกมาว่ายาวิเศษนั้นหาได้ที่ไหน" โล้วนาปู้เจี้ยนตอบว่า "บัดนี้พระองค์มีจิตใจมั่นคงแล้ว ข้าพระองค์จักทูลว่ายาวิเศษนั้นคือบัวดอกหนึ่ง ซึ่งเกิดกลางหิมะบนเขาซีมี่ซาน รากมิได้แตะดินโคลน ยากแก่การแสวงหา ผู้มีบุญญาธิการเท่านั้นจึงจะได้เป็นเจ้าของ ชื่อของยานั้นก็คือ บัวหิมะ"
"...ตั้งแต่ ครั้งโบราณถึงปัจจุบันมีบัวหิมะเกิดขึ้นแล้วสามดอก พระแม่ฟ้าหลวงนำขึ้นสวรรค์ไปประดิษฐานกลางสระหยกแล้วหนึ่งดอก เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าอีกหนึ่งดอก ส่วนดอกสุดท้ายอยู่ระหว่างทิศตะวันออกและทิศใต้ของเขาซีมี่ซาน โดยอยู่ในโพรงหิมะ มีน้ำแข็งห่อหุ้มอยู่อีกชั้นหนึ่ง กลิ่นหอมของบัวนี้ลอยไปไกล แต่น้อยคนนักจะได้เห็น ผู้มีบุญบารมีและเปี่ยมด้วยศรัทธาเท่านั้นจึงจะได้มาโดยไม่ลำบาก" พระเจ้าเมี่ยวจวงฟังแล้วไม่เชื่อว่ามีอยู่จริงจึงตรัสว่า "เราจะควบคุมตัวเจ้าไว้ก่อน เมื่อส่งคนไปค้นหาจนพบแล้วจึงจะปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระ แต่ถ้าไม่มีบัวนั้นจริง เราจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่" ตรัสจบทหารองครักษ์จึงเข้าจับกุมชายลึกลับไว้ตามพระบัญชา
จบตอนที่ ๔
ติดตาม ต่อตอนที่ ๕ การตามหาบัวหิมะ และการหายตัวไปของบุรุษหนุ่มลึกลับ
หนึ่ง เดือนผ่านไปพระอาการต่าง ๆ ทั้งบาดแผลตามเนื้อตัวและกระดูกข้อเท้าที่หลุดใกล้หายดีดังเดิมแล้ว คงเหลือแต่แผลบนหน้าผากข้างขวาเท่านั้น ที่ยุบจนกลายเป็นแผลเป็นสีคล้ำทำลายความงามบริสุทธิ์บนใบหน้าของพระธิดาน้อย ให้เป็นรอยมลทิน สร้างความกังวลให้กับพระบิดามารดามาก เพราะเกรงว่าจะเป็นข้อบกพร่องในการเลือกราชบุตรเขยมาอภิเษกกับพระธิดาสาม
พระ เจ้าเมี่ยวจวงจึงมีพระราชโองการประกาศหาหมอฝีมือดีมารักษาแผลเป็นของพระธิดาสาม หากผู้ใดทำสำเร็จจะประทานรางวัลเป็นเงิน ทอง และตำแหน่งหมอหลวงประจำราชสำนัก ทันทีที่ประกาศติดทั่วเมือง บรรดาหมอและผู้รู้ทางยาก็ได้เข้าวังถวายการรักษาอย่างเต็มความสามารถ แต่ทว่าก็ไม่อาจทำให้แผลเป็นนั้นหายได้ พระเจ้าเมี่ยวจวงพิโรธมาก ทรงกักตัวหมอทั้งหมดไว้เตรียมสั่งเนรเทศ
กระทั่ง วันหนึ่งมีบุรุษหนุ่มลึกลับปรากฏตัวขึ้น อาสารักษาแผลบนพระนลาฏ (หน้าผาก) ของพระธิดาเมี่ยวซ่าน โดยมีข้อแม้ว่าพระเจ้าเมี่ยวจวงต้องปล่อยตัวหมอคนอื่น ๆ ไปเสียก่อน นามของเขาคือ โล้วนาปู้เจี้ยน
พระเจ้าเมี่ยว จวงทรงมีความหวังขึ้นมาทันที
"เจ้าจงบอกมาว่าจะใช้ตัวยาชนิดใดมารักษาลูกสามของเรา"
โล้วนาปู้เจี้ยนยิ้มแล้วตอบว่า
"วิธีการรักษาพระธิดาจำเป็นต้องใช้ยาวิเศษกับหมอวิเศษเท่านั้น ข้าผู้น้อยไม่มีทั้งยาและไม่ใช่หมอวิเศษ เพียงแต่รู้และเข้าใจ"
พระเจ้าเมี่ยวจวงฟังคำยอกย้อนซ่อนเงื่อนของชายลึกลับแล้วก็ได้แต่พิโรธ
"ในเมื่อเจ้าไม่ใช่หมอวิเศษหรือมียาวิเศษ เพราะฉะนั้นการรักษาลูกสามก็มิอาจทำได้"
โล้วนาปู้เจี้ยนหัวเราะแล้ว ทูลว่า "ในที่สุดพระองค์ก็เข้าใจ" ชนวนสุดท้ายถูกจุดขึ้น อารมณ์พิโรธยากจะต้านทาน พระเจ้าเมี่ยวจวงสั่งจับตัวโล้วนาปู้เจี้ยนไปคุมขัง รอการประหารชีวิตทันที "ทหาร...ลากตัวมันออกไป !"
พระนางเป้าเต๋อรีบห้ามพระสวามี "ช้าก่อนเพคะ ชายผู้นี้เพียงแต่บอกว่าเขาไม่มียาวิเศษ แต่ไม่ได้หมายความว่าบนโลกนี้ไม่มี ทรงพระทัยเย็นแล้วฟังเขาเจรจาความให้จบเถิด" พระเจ้าเมี่ยวจวงใคร่ครวญตามจนพระทัยเย็น จึงถามว่า "เจ้าจงบอกมาว่ายาวิเศษนั้นหาได้ที่ไหน" โล้วนาปู้เจี้ยนตอบว่า "บัดนี้พระองค์มีจิตใจมั่นคงแล้ว ข้าพระองค์จักทูลว่ายาวิเศษนั้นคือบัวดอกหนึ่ง ซึ่งเกิดกลางหิมะบนเขาซีมี่ซาน รากมิได้แตะดินโคลน ยากแก่การแสวงหา ผู้มีบุญญาธิการเท่านั้นจึงจะได้เป็นเจ้าของ ชื่อของยานั้นก็คือ บัวหิมะ"
"...ตั้งแต่ ครั้งโบราณถึงปัจจุบันมีบัวหิมะเกิดขึ้นแล้วสามดอก พระแม่ฟ้าหลวงนำขึ้นสวรรค์ไปประดิษฐานกลางสระหยกแล้วหนึ่งดอก เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าอีกหนึ่งดอก ส่วนดอกสุดท้ายอยู่ระหว่างทิศตะวันออกและทิศใต้ของเขาซีมี่ซาน โดยอยู่ในโพรงหิมะ มีน้ำแข็งห่อหุ้มอยู่อีกชั้นหนึ่ง กลิ่นหอมของบัวนี้ลอยไปไกล แต่น้อยคนนักจะได้เห็น ผู้มีบุญบารมีและเปี่ยมด้วยศรัทธาเท่านั้นจึงจะได้มาโดยไม่ลำบาก" พระเจ้าเมี่ยวจวงฟังแล้วไม่เชื่อว่ามีอยู่จริงจึงตรัสว่า "เราจะควบคุมตัวเจ้าไว้ก่อน เมื่อส่งคนไปค้นหาจนพบแล้วจึงจะปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระ แต่ถ้าไม่มีบัวนั้นจริง เราจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่" ตรัสจบทหารองครักษ์จึงเข้าจับกุมชายลึกลับไว้ตามพระบัญชา
จบตอนที่ ๔
ติดตาม ต่อตอนที่ ๕ การตามหาบัวหิมะ และการหายตัวไปของบุรุษหนุ่มลึกลับ
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^