ตอนที่ ๓๑
สู่ดิน แดนศักดิ์สิทธิ์พบพระโพธิสัตว์กวนอิม พาท่องนรกภูมิ เปรตภูมิ เทวภูมิ
ใน ที่สุดทุกคนก็ถึงที่หมายในเวลาเที่ยงตรงของวันหนึ่ง ซ่านไฉ่นำทุกคนเดินเท้าผ่านทิวทัศน์อันสวยงาม แปลกตา ปลอดโปร่ง และสุขสบายอย่างหาสัมผัสได้ยากบนแดนที่ตนจากมา จนกระทั่งเข้าสู่ป่าไผ่สีม่วง ก็พบปราสาทกลางบึงบัวอันวิจิตรงดงาม ทุกคนต่างก้าวเดินอย่างลืมเหน็ดเหนื่อย เพราะมีความปรารถนาจะพบพระผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่เต็มหัวใจ
ครั้น แล้วทุกคนก็ได้พบกับพระโพธิสัตว์กวนอิมประทับอยู่กลางบัลลังก์บัวอย่างสง่า งาม แต่พระองค์กลับไม่มีพระเนตรและพระกรเหลืออยู่เลย ทุกคนได้แต่มองอย่างตกตะลึงและซาบซึ้งในความเสียสละของพระองค์ พระเจ้าเมี่ยวจวงและพระธิดาทั้งสองเพียงแรกเห็นก็จดจำได้ว่านี่คือพระธิดา เมี่ยวซ่านอย่างแน่นอน เพราะแผลเป็นจาง ๆ กลางหน้าผากบ่งบอกได้เด่นชัด พระเจ้าเมี่ยวจวงและสองพระธิดาคร่ำครวญถึงการสูญเสียอย่างไม่อาจหวนคืน พระธิดาสามต้องเป็นผู้พิการไร้มือและดวงตามืดบอดตลอดกาลเป็นเพราะช่วยบิดา แท้ ๆ
แต่ พระโพธิสัตว์กวนอิมตรัสว่า "ข้าแต่พระบิดาและพระพี่นางที่รัก การสละอินทรีย์เพื่อช่วยผู้ทนทุกข์นับเป็นความยินดียิ่งแห่งเราอย่าได้ เสียใจไปเลย" พระเจ้าเมี่ยวจวงยังคงเสียพระทัยที่พระธิดารักต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ พระโพธิสัตว์กวนอิมจึงว่า "หากพระบิดาโศกเศร้าอยู่ในห้วงทุกข์ เพราะเราไร้ดวงตาและแขนซ้ายขวา เราก็ขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอให้ร่างกายเรากลับบริบูรณ์ดังเดิมเทอญ" สิ้นคำตรัส แขนซ้ายขวาสีทองนับพันได้ปรากฏขึ้นบนร่างของพระองค์พร้อมดวงตางามกว่านาง อัปสรบนชั้นฟ้า ทุกคนในที่นั้นต่างปีติยินดียิ่งร่ำไห้สวมกอดกันอย่างไม่คิดจะเลิกรา
พระโพธิ สัตว์กวนอิมชี้ทางสว่างด้วยการเทศนาธรรมแก่ทุกคน ทรงแสดงภาพนิมิตถึงภพภูมิแห่ง เปรตอเวจี ให้เห็นว่าผู้ก่อกรรมทำบาป ทุจริตของสาธารณะมาเป็นประโยชน์ส่วนตน จิตใจคับแคบ ห่วงกังวลในสมบัติที่ได้มาโดยมิชอบ ก็จะกลายเป็นเปรต หนทางเดียวที่จะหลุดพ้นไปได้คือ ได้รับแสงแห่งพระโพธิสัตว์บรรเทาความทุกข์ให้มลายหายไป ทรงเทศนาพระอริยสัจสี่ประการอันเป็นวิถีแห่งบุญ ฝูงเปรตที่ฟังแล้วเกิดปัญญาก็ได้เกิดใหม่ในภพที่รุ่งเรืองกว่าในเทวโลก เปรตตนใดที่ยังหลงมัวเมาก็คงอยู่ต่อไปในเปรตภูมิ
ภาพนี้ คือภาพเจ้าแม่กวนอิมให้อาหารเปรต มีเรื่องเล่าว่า ท่านลงไปเปรตภูมิ เห็นเปรตหิวโหย ท่านโปรยอาหารทิพย์ลงไปให้เปรตทาน แต่เปรตเหล่านั้นเอาเข้าปาก ก็มีไฟพุ่งออกจากปาก ทานอาหารไม่ได้
ต่อมาพระองค์ได้พาทุกคนไปยัง นรกภูมิ เห็นภาพแม่น้ำเดือดพล่าน ต้นไม้ลุกเป็นไฟ มีใบเป็นดาบคมกริบ มีแขนขาลอยฟ่องอยู่ในแม่น้ำ น่าสยดสยอง พระเจ้าเมี่ยวจวงถามว่า "คนบาปชนิดใดจึงตกอยู่ในภพนี้" พระกวนอิมตอบว่า "มนุษย์ผู้กระทำชั่วมหันต์ จำพวกฆ่าชีวิต ข่มขี่คนจน ลักลอบเป็นชู้ หยาบกระด้างด้วยโทสะ โมหะ เผาผลาญจนที่แห่งนี้ลุกเป็นไฟตลอดกาล ต่ำลงไปเป็นขุมนรกแห่งผู้ก่อศึกสงคราม จะต้องรบราฆ่าฟันกันเองนานชั่วกัลป์ ส่วนผู้กระทำความโลภ เลือดเย็นอำมหิต วางยาพิษ คนพวกนี้ต้องอยู่ในความมืดมีน้ำแข็งห่อหุ้มทรมาน และพวกวางอุบายใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ใส่ตน จะไปเกิดแต่ลำพังคนเดียวในโลกมืดบอดไร้ทางออก"
พระ เจ้าเมี่ยวจวงถามถึงหนทางหลุดพ้นของสัตว์นรกเหล่านี้ พระกวนอิมจึงว่า "ภาพเหล่านี้สร้างขึ้นจากมโนญาณ เมื่อจะออกไปได้ต้องละจากบาป ไฟทรมานจึงจะดับลง และกรรมดีจะพาไปสู่ภพภูมิที่สูงกว่านี้" ทุกคนต่างอยากเห็นภพที่ดีดังกล่าวจึงขอให้พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงพาไป ครั้นแล้วปราสาททิพยวิมานอันวิจิตรตระการตาก็ปรากฏต่อสายตาของทุกคน เทียบกันแล้วพระราชวังของพระเจ้าเมี่ยวจวงกลายเป็นเพียงกระท่อมหญ้าทันที ส่วนความงามของสองพระธิดาก็ต้องมัวหมองลงเมื่อเปรียบกับความงามของนางอัปสร บนแดนนี้ และ ณ ที่แห่งนี้เองทุกคนก็ได้พบกับพระนางเป้าเต๋อ พระมเหสีและพระมารดาผู้เป็นที่รักของทุกคน พระนางเป้าเต๋อจึงติดตามคณะท่องแดนสวรรค์ เสด็จเคียงข้างพระเจ้าเมี่ยวจวง สร้างความยินดีให้กับทุกคน
พระ กวนอิมตรัสว่า "หากต้องการขึ้นมาอยู่ในเทวภูมินี้ ต้องบำเพ็ญบารมีด้วยการกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา เคารพผู้แก่ชรา สุภาพอ่อนหวานทั้งกาย วาจา ใจ ปราศจากความเห็นแก่ตัว หมั่นบริจาคทาน กล่าวแต่คำสัตย์ และอดกลั้นความโกรธ" คณะท่องดินแดนนรกและสวรรค์เห็นตรงกันว่า ต้องการเสวยสุขในดินแดนแห่งนี้ พระโพธิสัตว์กวนอิมแย้มสรวลอ่อนละมุนแล้วตรัสว่า "แท้จริงแล้ว ชาวสวรรค์เหล่านี้รับความบันเทิงในผลบุญจากปางก่อน แต่ยังมัวเมาหลงงมงามในความสนุกแห่งรูปไม่นานจิตก็จะเสื่อมด้วยอำนาจแห่ง ความหลง สวรรค์ก็จะมลายหายไป เทวดาเหล่านี้ก็จะตกสู่บาปภพเพื่อชดใช้กรรม ไม่ต่างจากคนบาปเมื่อครู่..."
จบตอนที่ ๓๑
ติดตามต่อตอนที่ ๓๒ (ตอนจบ) พระโพธิสัตว์กวนอิมพาท่องพรหมโลก และแดนนิรวาณ (นิพพาน) พบองค์อมิตตาพุทธเจ้า
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^