ตอนที่ ๒๖
การ เลือกผู้รับใช้เบื้องซ้ายขวา
ฝูงชนและภิกษุณีในวัดก้มลงกราบรูปธรรมของไต้ซืออย่าง เลื่อมใสศรัทธา กายละเอียดของไต้ซือก็ลอยขึ้นหายลับไปในหมู่เมฆขาว ส่วนสังขารเดิมของไต้ซือนั้นเย็นดุจน้ำแข็ง ภิกษุณีจึงสวดสังวัธยายพุทธมนต์อย่างพร้อมเพรียงกัน ย่งเหลียนและพระน้านางเตรียมเข้าวังกราบทูลพระเจ้าเมี่ยวจวง พอดีกับมีม้าเร็วถือพระราชโองการมาว่า พระเจ้าเมี่ยวจวงทรงทราบการปลงสังขารของไต้ซือเมี่ยวซ่านแล้ว เพราะไต้ซือเสด็จไปอำลาพระบิดาถึงในตำหนักเมื่อครู่ที่ผ่านมา
พระ เจ้าเมี่ยวจวงจึงทรงมีพระราชโองการว่าให้ลงรักปิดทองสังขารกายเนื้อของไต้ ซือจุดกำยานอบตลอดเวลา เก็บรักษาไว้ในห้องวิปัสสนาและเปลี่ยนชื่อจากห้องหลิงหลงเป็นห้อง กวนอิม เมตตา วัดจินกวงหมิงจึงมีงานใหญ่อีกครั้งคือ การบูรณะวัด จัดการตกแต่งห้องวิปัสสนาตามพระราชโองการของพระเจ้าเมี่ยงจวง มีโคมประทีปแขวนประดับงดงาม ส่วนร่างเดิมของไต้ซือได้ให้ช่างลงรักชนิดพิเศษฉาบทาพระศพปิดทองทั่วองค์ มีการจุดธูปกำยานหอมอบอยู่ตลอดเวลา และแล้วในที่สุดป้ายชื่อห้องกวนอิมเตตา ก็ได้รับการติดตั้งสมบูรณ์
ฝ่าย ไต้ซือเมี่ยวซ่านนั้น เมื่ออำลาพระบิดาแล้วก็เหาะลอยไปยังทะเลใต้สู่เขาโปตละโลกา ไม่นานจึงถึงจุดหมาย เกาะแห่งนี้เป็นดินแดนแห่งเขาพระสุเมรุ มีพันธุ์ไม้แปลกไปจากโลกมนุษย์ปกคลุมทั่วสารทิศ สัตว์ต่าง ๆ มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากที่ซึ่งพระองค์จากมา ถัดไปคือป่าไผ่สีม่วงสูงชะลูดเทียมเมฆ กลางดงไผ่นั้นมีวังดอกบัวขาวตระการตาส่องแสงฉัพพรรณรังสีทั่วทิศทาง กลางบึงมีดอกบัวชมพูบานดั่งบัลลังก์รอคอยการมาเยือนของพระองค์ เมี่ยวซ่านไต้ซือลอยเหนือบัลลังก์บัวลงประทับเป็นครั้งแรก
๙ ปีต่อมา คืนหนึ่งหลังจากทรงบำเพ็ญภาวนาติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน พระองค์ก็สัมผัสได้ถึงหนทางสีขาวบริสุทธิ์สุขสงบ ครั้นแล้วดวงจิตก็สามารถเพ่งมองทะลุไปทุกแดนทั่วพิภพ นับเป็นหนทางสู่นิพพานอันเป็นสุข แต่ทว่าพระองค์ทรงสดับเสียงคร่ำครวญปริเวทนาการของสัตว์โลกที่รับทุกข์ ทรมานอยู่ในทุก ๆ แห่ง จึงทรงตั้งปณิธานมุ่งมั่นว่า เราจะไม่เข้าสู่ภูมิ อันสันติโดยลำพังเป็นอันขาด เราจะอยู่เพื่อช่วยสรรพสัตว์ในโลกให้พ้นทุกข์ภัย แม้จะใช้เวลานานนับโกฏิล้านปี ดังสวรรค์รับรู้ความตั้งใจของพระองค์ดอกไม้แห่งสวรรค์พลันโปรยปราย เสียงทิพยดนตรีพิณสังคีตบรรเลงขับขาน แสงทองสาดส่องร่วมเป็นสักขีพยาน บรรดาพระอรหันต์ ได้ยินสังคีตดนตรีต่างเปล่าวาจาว่า ดีจริงเมี่ยวซ่านได้ บรรลุเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมแล้ว จารึกไว้ในวันที่ ๑๙ เดือน ๖ ตามตำนานในพระสูตร
ใน การนี้ได้มีการเลือกผู้รับใช้เบื้องซ้ายขวา ซึ่งย่งเหลียนผู้ติดตามมาถึงแดนทะเลใต้ได้รับเลือกเป็นคนแรก ต่อมาภิกษุหนุ่มนาม ซ่านไฉ่ หรือเจ้าเด็กผีจอมซน เซิ่นอิง เมื่อ ๙ ปีก่อนได้อาสารับใช้พระโพธิสัตว์โดยกราบทูลว่า "เดิมทีข้าพระองค์มัวเมาในความสนุกสนานอย่างมืดบอด ครั้นเมื่อหันมาศึกษาพระธรรมอย่างมุ่งมั่นและออกติดตามหาพระองค์จนมาถึงดิน แดนแห่งนี้ก็เพราะความภักดีเป็นที่ตั้ง ครานี้ข้าพระองค์จึงขอภักดีรับใช้พระองค์ตลอดไป" พระกวนอิมต้องการพิสูจน์ความมั่นคงของซ่านไฉ่จึงสั่งให้ไปรอที่ยอดเขารอคำ พิจารณา ซ่านไฉ่ขึ้นเขาไปรอตามรับสั่ง แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อท้องทะเลเบื้องหน้ามีกองเรือโจรสลัดมหาศาลจอดอยู่ริมฝั่งและกำลังยกทัพ ขึ้นมาบนเกาะแห่งนี้
ขุน โจรคนหนึ่งกระชากร่างพระกวนอิมออกมาจากป่าไผ่สีม่วงได้ พระองค์รีบสลัดแขนจนหลุดแล้วปีนขึ้นมายังหน้าผา โจรสลัดตามขึ้นมาเป็นพรวน พระกวนอิมถูกอาวุธบาดเจ็บพลัดตกลงเหวไป ซ่านไฉ่คว้าร่างของพระองค์ไม่ได้ จึงตัดสินใจกระโดดลงไปหมายจะขอตายตาม และแล้วซ่านไฉ่ก็ฟื้นขึ้น เบื้องหน้าไม่มีโจรสลัด ไม่มีความตาย คงมีแต่แววตาเปี่ยมกรุณาของพระโพธิสัตว์กวนอิมทอดมายังเขา แล้วกล่าวว่า "นี่คือข้อพิสูจน์ความภักดีของเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ร่างเก่าของเจ้าเป็นธุลีอยู่ในเหวนั้นแล้ว ขณะนี้เจ้ามีร่างอันเกิดใหม่อันเป็นอากาศธาตุ สามารถจำแลงกายล่องลอยในอากาศไปถึงแดนแห่งพรหมโลกได้ เป็นการตอบแทนที่เจ้าพลีชีพบูชาอย่างภักดี" จากนั้นเป็นต้นมาย่งเหลียนและซ่านไฉ่จึงเป็นสาวกเบื้องซ้ายขวา คอยรับใช้พระโพธิสัตว์กวนอิมเรื่อยมา
จบตอนที่ ๒๖
ติดตามต่อตอน ที่ ๒๗ พระเจ้าเมี่ยวจวงล้มป่วย
ขอขอบพระคุณ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=beee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^